ประชาสัมพันธ์ สถาบันนโยบายสาธารณะ
ข่าวประชาสัมพันธ์
- ขั้นตอนการขอห้องประชุมออนไลน์ Zoom จากทางศูนย์คอมพิวเตอร์ @19 ก.ค. 67 14:14 | 233 views
- ประชาสัมพันธ์ การอบรมเชิงปฎิบัติการ วิทยาการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ ระหว่างวันที่ 5-9 สิงหาคม 2567 @8 ก.ค. 67 13:51 | 418 views
- ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ ภายใต้โครงการพัฒนาระบบและกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพภาคใต้ @9 ก.พ. 67 16:17 | 2225 views
- ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกนักวิชาการคอมพิวเตอร์ สังกัดสถาบันนโยบายสาธารณะ ทางเว็บไซต์สถาบันฯ @5 ก.พ. 67 11:46 | 2681 views
การดำเนินกิจกรรมโครงการ
โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ประชุมทีมประเมิน HIA PA 3 ภาค : สรุปการประชุมวางแผนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกาย วัตถุประสงค์ของการประชุม ชี้แจงรายละเอียดโครงการ วางแผนและกำหนดแนวทางการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกมิติของโครงการ PA ผลผลิตและผลลัพธ์ 1. กำหนดเป้าหมายและขอบเขตการประเมิน HIA - กำหนดกรอบแนวทางการประเมิน ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต และผลกระทบต่อสังคม 2. ออกแบบเครื่องมือประเมิน HIA - พัฒนาเครื่องมือและตัวชี้วัดเพื่อวัดผลลัพธ์ด้านสุขภาพ เช่น ระดับความตระหนักรู้ทางสุขภาพ ระยะเวลาในการมีกิจกรรมทางกาย และการเปลี่ยนแปลงของสุขภาวะ - ใช้ทั้งการสำรวจเชิงปริมาณและการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากกลุ่มเป้าหมาย 3. ปัจจัย (Input) ประกอบด้วยทรัพยากรหลักที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการและการประเมิน HIA ได้แก่: - คน/เครือข่าย: ภาคีจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนกิจกรรม - งบประมาณ/แหล่งทุน: โครงการ PA และแหล่งทุนจากภาครัฐและองค์กรอื่น - ข้อมูล ระบบ/ทรัพยากรสนับสนุน - ชุดความรู้ 4. กระบวนการ (Process) กระบวนการดำเนินงาน (Process) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกาย มีรายละเอียดดังนี้ 1) กำหนดผู้รับผิดชอบในระดับภาค การจัดตั้งทีมงานระดับภาคเพื่อดูแลและรับผิดชอบโครงการถูกแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาคหลัก ได้แก่ - ภาคเหนือ: ลำพูน และ น่าน - ภาคอีสาน: อุบลราชธานี และ อำนาจเจริญ - ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี และ ตรัง ในขั้นตอนนี้ ทีมภาคมีหน้าที่สำคัญในการสร้างกลไกการทำงาน ได้แก่: 1.1 การพัฒนากลไกพี่เลี้ยง ทีมงานในแต่ละภาคจะพัฒนาพี่เลี้ยง โดยพี่เลี้ยงจะสนับสนุนวิชาการทำแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับพื้นที่ 1.2 การวางกลไกการสื่อสาร แต่ละภูมิภาคจะออกแบบระบบการสื่อสารเพื่อให้การประสานงานระหว่างทีมงานในแต่ละภาคเพื่อประชาสัมพันธ์งาน PA และจัดทำคลิปวิดีโอในพื้นที่ต้นแบบ เพื่อถ่ายทอดบทเรียนดีๆให้กับพื้นที่อื่นๆ 1.3 การวางกลไกด้านสถาปนิก การออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมที่สนับสนุนกิจกรรมทางกายเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ โดยทีมภาคจะวางกลไกสนับสนุนด้านการออกแบบพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน 1.4 การคัดเลือกพื้นที่เข้าร่วมโครงการ กำหนดเกณฑ์และวิธีการเลือกพื้นที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม 1.5 การอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ ทีมงานจะจัดอบรมให้กับตัวแทนจาก 60 แห่ง เพื่อพัฒนาทักษะด้านการวางแผนและการเขียนโครงการ 1.6 การปรับปรุงแผนโครงการ: แผนโครงการจะถูกปรับปรุงให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และข้อเสนอแนะจากชุมชน 2) การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม มีการดำเนินงานออกแบบพื้นที่เชิงสถาปัตยกรรมในพื้นที่นำร่องจำนวน 13 แห่ง โดยมุ่งเน้นให้พื้นที่เหล่านี้เอื้อต่อการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการมีกิจกรรมทางกายอย่างต่อเนื่อง 3) การทดลองปฏิบัติการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย โครงการทดลองจำนวน 46 โครงการถูกนำมาทดสอบในพื้นที่จริง เพื่อศึกษาผลลัพธ์และหาบทเรียนในการพัฒนานโยบาย ทั้งนี้ การทดลองเหล่านี้จะเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นได้ต่อไป 4) การสื่อสารสาธารณะในระดับพื้นที่ การสื่อสารสาธารณะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากประชาชน โดยมีการพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายสื่อในระดับท้องถิ่นเพื่อให้สามารถสื่อสารนโยบายและข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครือข่ายสื่อท้องถิ่นยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ผ่านการเผยแพร่ข้อมูลและส่งเสริมกิจกรรมทางกายไปสู่ชุมชน สรุป กระบวนการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายนี้ถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การวางแผนระดับภาค การสร้างกลไกสนับสนุน การออกแบบพื้นที่ การทดลองปฏิบัติการในพื้นที่จริง และการสื่อสารสาธารณะ กระบวนการทั้งหมดนี้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ลดปัญหาสุขภาพ และส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนในทุกภูมิภาคของประเทศไทย 5) ผลผลิตผลลัพธ์เน้นผลการส่งเสริม 4 ด้านหลัก: 1) Active People: ส่งเสริมความรู้ ความตระหนัก และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน 2) Active Environment: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อกิจกรรมทางกาย 3) Active Society: สร้างความร่วมมือในชุมชนและภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง 4) Active System: พัฒนาระบบที่เอื้อต่อการส่งเสริมกิจกรรมอย่างเป็นระบบ 4. ผลลัพธ์ (Outcome) - กิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น: จำนวนผู้เข้าร่วมและความถี่ของการมีกิจกรรมทางกายมากขึ้น - NCDs ลดลง: การลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อ (Non-Communicable Diseases) สรุปภาพรวม แผนภาพนี้แสดงให้เห็นกระบวนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ประกอบกับหลักการโมเดล CIPP เป็นแนวทางในการประเมินโครงการหรือกิจกรรม โดย CIPP ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ตั้งแต่ปัจจัยนำเข้า การดำเนินงาน ผลผลิตผลลัพธ์ ดังนี้: 1. C - Context (บริบท): ประเมินความเหมาะสมของโครงการกับบริบท เช่น สภาพแวดล้อมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 2. I - Input (ปัจจัยนำเข้า): ตรวจสอบทรัพยากรและแผนงานที่ใช้ เช่น งบประมาณ บุคลากร และเครื่องมือ 3. P - Process (กระบวนการ): ประเมินขั้นตอนการดำเนินงานและวิธีการดำเนินโครงการ เพื่อดูความเหมาะสมและประสิทธิภาพ 4. P - Product (ผลลัพธ์): ตรวจสอบผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเน้นการเชื่อมโยงระหว่างชุมชน ภาคส่วนต่างๆ และการสนับสนุนจากระบบเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน ทั้งยังมุ่งหวังให้มีการขยายผลไปสู่ระดับนโยบายเพื่อลดปัญหา NCDs ในระยะยาว แผนการประชุมถัดไป - การทบทวนเครื่องมือการประเมิน - รวบรวมความคิดเห็นจากภาคีเครือข่าย และลงพื้นที่ติดตามประเมินผล@14 ต.ค. 67 05:34โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
วางแผนงานเรื่องสื่อในงานประชุมนโยบายส่วนกลาง เวทีสาธารณะสร้างเสริมสุขภาวะ PA / zoom 4 : ผลผลิตผลลัพธ์: 1. การกำหนดและปรับปรุงแผนใหม่: ได้ทำการกำหนดแนวทางและปรับปรุงแผนงานให้เหมาะสม 2. การทำฐานข้อมูลรายชื่อภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วม (Mapping): ระบุรายชื่อภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่จะเข้าร่วมในเวทีครั้งนี้ เพื่อการประสานงานต่อไป 3. การกำหนดประเด็นนโยบายด้านสถาปัตยกรรม: เน้นการสร้างสถาปัตยกรรมที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนานโยบาย 4. การวางแนวทางการสื่อสารสาธารณะ: กำหนดกลยุทธ์การสื่อสารที่มุ่งหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพต่อสาธารณะ - ได้แนวทางการสื่อสาธารณะที่คาดหวังผลลัพธ์ รูปแบบกระบวนการสื่อสารมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างของกระบวนการสื่อสารที่พบบ่อย ได้แก่ 1) แถลงข่าว (Press Conference): เป็นการจัดงานเพื่อประกาศหรือให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน โดยมักจะใช้เมื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญ เช่น นโยบายใหม่ การเปิดตัวโครงการ หรือการตอบคำถามที่เป็นกระแสในสังคม 2) ประชุม (Meeting): การสื่อสารในรูปแบบการประชุมระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หารือ หรือแจ้งข้อมูลภายในองค์กร 3) สัมมนา (Seminar): เป็นกิจกรรมที่มีการบรรยายหรืออภิปรายเพื่อเผยแพร่ความรู้หรือข้อมูลในหัวข้อเฉพาะ โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมานำเสนอและเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 4) การให้สัมภาษณ์ (Interview): การสื่อสารระหว่างผู้ให้สัมภาษณ์ (แหล่งข่าว) กับผู้สัมภาษณ์ (สื่อมวลชน) เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นเฉพาะ 5.) สื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Communication): การใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook, หรือ YouTube เพื่อเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ โดยมีความรวดเร็วและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย 6) ออกอากาศทางวิทยุหรือโทรทัศน์ (Broadcast Communication): การสื่อสารผ่านช่องทางวิทยุหรือโทรทัศน์ โดยเป็นการกระจายเสียงหรือภาพไปยังกลุ่มผู้ชมในวงกว้าง 7) ประชาสัมพันธ์ (Public Relations): การสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสาธารณะและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร 8) เวทีเสวนา (Panel Discussion) : การจัดงานอภิปรายหรือเสวนาที่มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่น่าสนใจ แต่ละรูปแบบของการสื่อสารจะมีความเหมาะสมในการใช้กับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและกลุ่มผู้ฟังที่ต้องการสื่อสารถึง 5. รูปแบบการสื่อสารที่กำหนดสำหรับเวทีสาธารณะ PA ครั้งนี้: - วิดีโอสรุปสถานการณ์ PA: นำเสนอความสำคัญของกิจกรรมทางกาย สถานการณ์ปัจจุบัน และผลงานที่ผ่านมาในรูปแบบวิดีโอที่กระชับและน่าสนใจ - เวทีเสวนาผลักดันนโยบาย: จัดเวทีเสวนาที่นำเสนอผลลัพธ์จากพื้นที่ระดับท้องถิ่น เพื่อผลักดันนโยบายสู่ระดับชาติ - การแถลงข่าว: จัดงานแถลงข่าวเพื่อเผยแพร่ข้อมูลสำคัญและสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้าง - การประกาศวาระนโยบายร่วมกัน: ภาคีต่างๆ จะร่วมกันประกาศวาระนโยบายเพื่อสร้างความร่วมมือและทิศทางที่ชัดเจน - การมีส่วนร่วมของภาคี 3 ภาคผ่านระบบออนไลน์: เปิดโอกาสให้ภาคีจากทั้งสามภาคส่วนเข้าร่วมและมีส่วนร่วมในการประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเสริมสร้างความหลากหลายและครอบคลุม@14 ต.ค. 67 04:52การดำเนินงานขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดปัตตานี
การบูรณาการขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายระบบอาหารร่วมกับจังหวัดปัตตานี : แนวทางการดำเนินงานร่วมกันดังนี้ 1.แนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอนโยบายของโครงการ ฯ จากเวที Policy forum ได้มีการกำหนดพื้นที่ต้นแบบบูรณาการระดับอำเภอในเบื้องต้น จำนวน 6 อำเภอ คืออำเภอมายอ ยะหริ่ง ปานาเระ โคกโพธิ์ ทุ่งยางแดง ยะรัง (และอาจมีกำหนดพื้นที่เพิ่มเติมภายหลังได้อีก) โดยหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดได้คัดเลือกจากพื้นที่ ๆ ที่ปัญหาโภชนาการรุนแรง มีต้นทุน กลไกการทำงานที่ส่วนราชการที่ลงไปขับเคลื่อนในพื้นที่อยู่แล้ว โดยรูปแบบการดำเนินงานร่วมกันตามห่วงโซ่ระบบอาหาร ทั้งประเด็นความมั่นคงทางอาหาร การขยายผลรูปแบบเกษตรกรรมยั่งยืนในพืชเชิงเดี่ยว ประเด็นอาหารปลอดภัย การพัฒนารูปแบบกลไกการเฝ้าระวังอาหารปลอดภัย และการจัดการภาวะโภชนาการในพื้นที่โดยใช้กลไกกองทุนตำบล กลไก รพ.สต.ถ่ายโอน กลไกนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัด และการพัฒนาแผนงาน โครงการเข้าสู่แผนจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน 2.ผลการหารือเรื่องกลไกคณะกรรมการอาหารระดับจังหวัด ตามคำสั่งคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ที่ 1/2567 เรื่องแต่งตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการจัดการอาหารประเทศไทยระดับจังหวัด ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ท่านรอง ผวจ.ปัตตานี ประธานที่ประชุม มอบหมายให้เลขานุการร่วม 3 หน่วยงาน ตามคำสั่ง อาหารระดับจังหวัด ไปสรรหาผู้แทนจากท้องถิ่น ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และเสนอรายชื่อเพื่อจัดทำคำสั่งอย่างเร่งด่วน และให้กำหนดประชุมคณะกรรมการ ฯ นัดแรกภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 โดย ให้โครงการขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดสงขลาและสามจังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส)” สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์รับผิดชอบ จัดทำข้อมูล จะร่างแผนการขับเคลื่อนระบบอาหารที่ยั่งยืนของจังหวัดปัตตานี และแผนปฏิบัติการ ๆ ในดำเนินงานร่วมกัน ในการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการ ฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2567@10 ต.ค. 67 15:06การเรียนการสอนสาขาวิชาการจัดการระบบสุขภาพ ปีการศึกษา 2568 และกิจกรรมของหลักสูตร
ประชุมเพื่อกลั่นกรองและปรับปรุงหลักสูตรการจัดการระบบสุขภาพ : เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 หลักสูตรการจัดการระบบสุขภาพ นำโดย ดร.ซอฟียะห์ นิมะ ประธานหลักสูตร พร้อมด้วยอาจารย์และเจ้าหน้าที่หลักสูตร ได้แก่ ดร.สุวภาคย์ เบญจธนวัฒน์ และนางสาวเยาวลักษณ์ ศรีสุกใส ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อกลั่นกรองและปรับปรุงหลักสูตรการจัดการระบบสุขภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชานี้@10 ต.ค. 67 12:42การเรียนการสอนสาขาวิชาการจัดการระบบสุขภาพ ปีการศึกษา 2568 และกิจกรรมของหลักสูตร
สัมภาษณ์กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อขอข้อคิดเห็นในการปรับปรุงหลักสูตร (stakeholder need) : เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ได้มีการจัดสัมภาษณ์กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักสูตร โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการรวบรวมข้อเสนอและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholder needs) เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทและความต้องการในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น การสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ประธานกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขตพื้นที่ 12 และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลักสูตร สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (สนส.ม.อ.) ซึ่งได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงหลักสูตร และมี ดร.ซอฟียะห์ นิมะ ประธานหลักสูตร สนส.ม.อ. ที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลการพัฒนาหลักสูตรและผลักดันให้มีคุณภาพสูงสุด และนางสาวเยาวลักษณ์ ศรีสุกใส นักวิชาการประจำหลักสูตร ผู้รับผิดชอบในการประสานงานและสนับสนุนกระบวนการพัฒนาหลักสูตร รวมถึงการจัดเตรียมข้อมูลและการประเมินผลการดำเนินงานในอนาคต ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งข้อมูลจากการสัมภาษณ์ทางหลักสูตร สนส.ม.อ.จะนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคม ประเทศต่อไป@10 ต.ค. 67 12:33โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ประชุมพัฒนาเอกสารประกอบการประชุมนโยบายส่วนกลาง เวทีสาธารณะสร้างเสริมสุขภาวะ PA : สรุปได้ดังนี้: เป้าหมายเวทีสาธารณะสร้างเสริมสุขภาวะ PA 3 ระยะ คือ: ระยะที่ 1 การพัฒนาแบบทางสถาปัตยกรรมพื้นที่ต้นแบบส่งเสริมกิจกรรมทางกายในพื้นที่: ดำเนินการโครงการนำร่องเพื่อแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในด้านการส่งเสริมสุขภาพ การออกกำลังกาย กิจกรรมทางกายในวิถีชีวิตประจำวันการเดินทางและทำงาน และการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะ ระยะที่ 2 การขับเคลื่อนนโยบายระดับท้องถิ่นและระดับชาติ: มีการจัดทำข้อเสนอนโยบายและผลักดันให้หน่วยงานท้องถิ่นและระดับชาติมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายให้ท้องถิ่นรับไปดำเนินการจริง ระยะที่ 3 การส่งเสริมกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน: เน้นให้เกิดการเคลื่อนไหวส่งเสริมกิจกรรมทางกายในพื้นที่ที่ดูแลอย่างต่อเนื่องและมีการส่งเสริมการออกกำลังกายที่เพียงพอเพื่อช่วยลดอัตราการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในระยะยาว การดำเนินเชิงนโยบาย 1) ทีมงานได้ดำเนินการผลักดันการขับเคลื่อนนโยบายระดับท้องถิ่น พบว่าการประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะการทำให้หน่วยงานท้องถิ่นพัฒนาพื้นที่สาธารณะและการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการมีพื้นที่ต้นแบบ 13 แห่ง กระจายอยู่ 6 จังหวัดใน 3 ภาค ที่เป็นพื้นที่ตัวอย่างในการนำเสนอเชิงนโยบาย และนอกจากนี้มีพื้นที่ต้นแบบของภาคีเครือข่ายสถาปนิก สสส. ที่เป็นพื้นที่ต้นแบบส่งเสริม PA ร่วมผลักดันนโยบายในครั้งนี้ 2) มีการเตรียมแผนที่จะขับเคลื่อนข้อเสนอนโยบายในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งจะต้องมีการจัดทำรายงานและการรีวิวสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการขับเคลื่อนนโยบาย 3) ได้แผนที่จะจัดการประชุมเวทีสาธารณะในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่อนำเสนอข้อเสนอนโยบายให้แก่หน่วยงานท้องถิ่นและระดับส่วนกลาง โดยจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และภาคีที่เกี่ยวข้อง 4) การดำเนินงานในพื้นที่ต้นแบบจะต้องเน้นให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น การปรับปรุงพื้นที่สาธารณะให้มีความพร้อมในการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย และการสนับสนุนจากท้องถิ่นในแง่ของงบประมาณหรือแหล่งทุนเพิ่มเติม 5) ความสำคัญของการใช้ข้อมูลวิชาการในการสนับสนุนข้อเสนอนโยบาย เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการพัฒนาพื้นที่สาธารณะและการส่งเสริมสุขภาพ โดยอาจมีการนำตัวอย่างจากต่างประเทศมาใช้ประกอบการนำเสนอ การจัดการข้อมูลและเอกสาร - ทีมงานกำลังจัดทำรายงานและการสังเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการทบทวนและปรับปรุงโครงการ โดยเอกสารเหล่านี้จะครอบคลุมถึงสถานการณ์ในประเทศไทย รวมถึงปัจจัยที่เป็นอุปสรรคและโอกาสในการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ - มีการกำหนดเวลาสำหรับการส่งรายงานและข้อเสนอต่างๆ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการประชุมและการขับเคลื่อนนโยบายในเดือนพฤศจิกายนได้ทันเวลา 4.การขับเคลื่อนระดับนโยบายและบทบาทของหน่วยงานต่างๆ - หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนนโยบาย ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานระดับท้องถิ่น เช่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น - การผลักดันนโยบายติดตามต่อจากมติ 10.1 มติสมัชชาชาติ PA และมติภาคีเครือข่ายที่เกี่ยว มาขับเคลื่อนต่อในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม@10 ต.ค. 67 10:16ระบบสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว
ประชุมการขับเคลื่อนงานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต : *@09 ต.ค. 67 17:07กองทุนสุขภาพจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ประชุมเพื่อขับเคลื่อนประเด็นผู้สูงอายุของจังหวัดสุราษฏร์ธานี เพื่อออกแบบดำเนินการการขับเคลื่อนประเด็นผู้สูงอายุยั่งยืนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี : *@09 ต.ค. 67 16:49มะรุ่ยแห่งความสุข จ.พังงา
ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาปลาตายในพื้นที่คลองมะรุ่ย : *@09 ต.ค. 67 16:39ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมจัดทำยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพภายใต้งานบูรณาการกลไกจังหวัดภุเก้ต และสุราษฎร์ธานี : *@09 ต.ค. 67 16:33การผลักดันมาตรฐานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมเข้าสู่ สรพ.
ประชุมทีมวิชาการให้ข้อเสนอแนะต่อหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงพยาบาลที่สนใจนำคู่มือมาตรฐานไปปรับใช้ในการจัดบริการสุขภาพ Zoom ออนไลน์ : *@09 ต.ค. 67 16:27กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
ประชุมทำแผนและพัฒนาโครงการกองทุนกลไกจังหวัดภูเก็ต : *@09 ต.ค. 67 16:20การผลักดันมาตรฐานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมเข้าสู่ สรพ.
ประชุมจัดทำร่างหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงพยาบาลที่สนใจจัดบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรม : *@09 ต.ค. 67 16:05การผลักดันมาตรฐานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมเข้าสู่ สรพ.
ประชุมทีมวิชาการให้ข้อเสนอแนะต่อหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงพยาบาลที่สนใจนำคู่มือมาตรฐานไปปรับใช้ในการจัดบริการสุขภาพ : *@09 ต.ค. 67 15:56ระบบสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว
ประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนและเก็บข้อมูล medical wellness กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดภูเก็ต คณะการบริการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต : *@09 ต.ค. 67 15:37ระบบสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว
ประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนและเก็บข้อมูล medical wellness กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดภูเก็ต คณะการบริการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต : *@09 ต.ค. 67 15:17ชุมชนสีเขียว
ประชุมจัดทำแผนขับเคลื่อนชุมชนสีเขียวเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านความมั่นคงทางอาหารสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมผ่านทาง Zoom ออนไลน์ : *@09 ต.ค. 67 13:59ชุมชนสีเขียว
ประชุมวางแผนขับเคลื่อนสมัชชาชุมชนสีเขียวร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพ : *@09 ต.ค. 67 13:53ชุมชนสีเขียว
ประชุมจัดทำแผนขับเคลื่อนชุมชนสีเขียวเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านความมั่นคงทางอาหาร : *@09 ต.ค. 67 13:46ชุมชนสีเขียว
ประชุมจัดทำข้อมูลถอดบทเรียนชุมชนสีเขียว : *@09 ต.ค. 67 13:40การผลักดันมาตรฐานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมเข้าสู่ สรพ.
ประชุมทีมวิชาการดูเครื่องมือ guideline แนวปฏิบัติให้กับโรงพยาบาลที่นำมาตรฐานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมไปทดลองใช้ผ่านระบบ Zoom : *@09 ต.ค. 67 13:26การผลักดันมาตรฐานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมเข้าสู่ สรพ.
ประชุมทีมวิชาการดูเครื่องมือ guideline แนวปฏิบัติให้กับโรงพยาบาลที่นำมาตรฐานระบบบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมไปทดลองใช้ : *@09 ต.ค. 67 12:09กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
ประชุมคณะอนุกรรมการโครงการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพในระดับจังหวัด "ภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต Phuket : Health for Future of Life" ครั้งที่ 2/2567 : *@09 ต.ค. 67 12:00ระบบสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว
ประชุมคณะทำงานเพื่อออกแบบคำถามที่จะใช้ในการลงพื้นที่สัมภาษณ์ Local Site : *@09 ต.ค. 67 11:52ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์โครงการพัฒนาระบบและกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพภาคใต้ : *@09 ต.ค. 67 11:31ระบบสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว
ประชุมติดตามการดำเนินงานประเด็นความมั่นคงทางสุขภาพ และประเด็นความมั่นคงทางมนุษย์ จังหวัดภูเก็ต : *@09 ต.ค. 67 10:02กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
ประชุมทีมสื่อสารกิจกรรมภายใต้โครงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์ในจังหวัดภูเก็ต : *@09 ต.ค. 67 09:50กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
ประชุมคณะทำงาน กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียน : *@09 ต.ค. 67 09:40กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
ประชุมคณะทำงาน กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียน : *@09 ต.ค. 67 09:35ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมจัดทำ policy canvas กรอบงานสื่อสาร 4 ประเด็น : *@08 ต.ค. 67 16:48ระบบสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว
ประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำคู่มือการตอบแบบประเมินตนเอง สำหรับนำไปทดลองใช้ในโรงพยาบาลนำร่องการจัดบริการสุขภาพพหุวัฒนธรรมทั่วประเทศ : *@08 ต.ค. 67 16:39ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ทีมติดตามประเมินโครงการพัฒนาระบบและกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพภาคใต้ : *@08 ต.ค. 67 16:25กองทุนสุขภาพจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ประชุมถอดบทเรียนการขับเคลื่อนงานกลไกความมั่นคงทางมนุษย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี : *@08 ต.ค. 67 16:19ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมวางแผนการดำเนินงานสื่อสารเพื่อผลักดันเชิงนโบายร่วมกับ Thai PBS : *@08 ต.ค. 67 16:03มะรุ่ยแห่งความสุข จ.พังงา
ประชุมทบทวนข้อมูลทรัพยากรตำบลมะรุ่ย เพื่อวางแผนการจัดทำนโยบายระดับตำบล : *@08 ต.ค. 67 15:54ศาลาด่านโมเดล
ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางขับเคลื่อนกลไกการทำงานโดยบูรณาการความร่วมมือพัฒนาอำเภอเกาะลันตายั่งยืนในทุกมิติ : *@08 ต.ค. 67 15:27ศาลาด่านโมเดล
ประชุมเตรียมความพร้อมการขับเคลื่อนกลไกการทำงานโดยบูรณาการความร่วมมือพัฒนาอำเภอเกาะลันตายั่งยืนในทุกมิติ : *@08 ต.ค. 67 15:08ระบบสุขภาพพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว
ประชุมสรุปข้อมูลการทำ Focus Group : *@08 ต.ค. 67 15:02กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
ประชุมเกิจกรรมผู้สูงอายุสุขภาวะดีแห่งอนาคต จังหวัดภูเก็ต ในโครงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพในระดับจังหวัด “ ภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต “ Phuket : Health for Future of Life ” : *@08 ต.ค. 67 14:50ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามประเมินผลภายในแบบเสริมพลัง : *@08 ต.ค. 67 14:35กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
อบรมเชิงปฏิบัติการการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยปกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน : *@08 ต.ค. 67 14:21กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
สรุปการประชุมคณะทำงาน โครงการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพ ในระดับจังหวัดภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต สาระสำคัญ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการผู้สูงอายุ : *@08 ต.ค. 67 14:11กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
สรุปการประชุมคณะทำงาน โครงการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพ ในระดับจังหวัดภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต สาระสำคัญ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดภูเก็ต ด้วยหลัก 4 อ. 2 ส. : *@08 ต.ค. 67 14:05ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมทบทวนแผนและออกแบบกิจกรรมการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบและกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพภาคใต้ : *@08 ต.ค. 67 13:46โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (ภาคใต้ : สุราษฎร์ธานี)
ติดตามตรวจเอกสารการเงิน/ปิดโครงการส่งเสริม PA ในชุมชน : ได้เอกสารการจ่ายเงินถูกต้องครบถ้วนทั้ง 5 โครงการ จาก 4 ตำบล พร้อมส่ง สนส.มอ.@06 ต.ค. 67 12:21การดำเนินงานขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดปัตตานี
เวที Policy Forum สื่อสารข้อเสนอเชิงนโยบายด้านระบบอาหาร (ความมั่นคงทางอาหาร อาหารปลอดภัย และโภชนาการ) : มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 900 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากส่วนราชการ หน่วยงานกำหนดนโยบายในระดับจังหวัด เช่นเกษตรจังหวัด ปศุสัตว์ ศึกษาธิการ ประมง พัฒนาชุมชน จากสามจังหวัด ตัวแทนหน่วยงานวิชาการเช่น ศูนย์อนามัยที่ 12 สภาพัฒน์ภาคใต้ ศอบต.-ภาควิชาการ จาก ม.สงลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ และปัตตานี ม.นราธิวาสราชนครินทร์ วสส.ยะลา -ผู้แทนจากองค์กรปกครองท้องถิ่น จาก อบจ. ผู้แทน อปท.ในปัตตานีทุกแห่ง ครู ศพด.-ผู้แทนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม-ภาคประชาสังคม ในจังหวัดปัตตานี และยะลา อสม. โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ 18 ก.ย. 2567 ที่โรงแรมปาร์ค อินทาวน์ อ.เมือง จ.ปัตตานี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา และภาคีเครือข่าย จัดเวที Policy Forum พลังความร่วมมือร่วมใจ ทุกนโยบายห่วงใยระบบอาหารเพื่อสุขภาวะ “Food system in all policy” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดสงขลาและสามจังหวัดชายแดนใต้ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ เป็น 1 ใน 7 ประเด็นการทำงานตามทิศทางและเป้าหมายระยะ 10 ปี ของ สสส. มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพอย่างสมดุล ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อ (NCDs) โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและนำไปสู่การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ จากสถานการณ์ด้านโภชนาการพื้นที่ชายแดนใต้ ปี 2565 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติและยูนิเซฟ พบว่า พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) มีปัญหาทุพโภชนาการติด 1 ใน 5 อันดับสูงสุดของประเทศ พบเด็กอายุ 1-5 ปี มีภาวะเตี้ยแคระแกร็นหรือมีส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์อายุ 20% สูงกว่าค่าเฉลี่ยประเทศอยู่ที่ 13% ซึ่งมีสาเหตุจากการขาดสารอาหารต่อเนื่อง กระทบต่อการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กในระยะยาว รวมถึงส่งผลต่อความไม่มั่นคงของมนุษย์ และเศรษฐกิจประเทศ “สสส. เห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เร่งสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่าย นำร่องพัฒนาตำบลต้นแบบบูรณาการระบบอาหารในพื้นที่ จ.ปัตตานี จนเกิดการยกระดับการทำงานเชิงระบบและเกิดข้อเสนอเชิงนโยบายที่สำคัญ 3 เรื่อง 1.สร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน 2.สร้างระบบอาหารปลอดภัย จ.ปัตตานี 3.แก้ปัญหาโภชนาการในกลุ่มเด็กเล็ก วัยเรียน และกลุ่มเปราะบาง จ.ปัตตานี การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การสร้างความร่วมมือจัดทำ Road map การขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดสงขลาและสามจังหวัดชายแดนใต้ ระยะ 3 ปี เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลข้อเสนอเชิงนโยบายในพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล ผลิตอาหารได้เองเพียง 10% ของความต้องการโดยเฉลี่ย ประกอบกับผลกระทบจากราคาสินค้าผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ส่งผลต่อรายได้และความยากไร้ของประชากร ซึ่งมีสัดส่วนคนจนสูงสุดติด 1 ใน 10 อันดับของประเทศ ส่งผลให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ การกำหนดนโยบายด้านระบบอาหาร ถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างศักยภาพประชาชนให้เท่าทันกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เสริมความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจให้กับคนในพื้นที่ ทั้งนี้ นโยบายด้านระบบอาหารจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทำงานจังหวัดในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ ขยายผลในทางปฏิบัติต่อไป นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จ.ปัตตานี ใช้กลไกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 38 แห่ง ร่วมกับ Thailand Policy Lab สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พัฒนาศักยภาพแกนนำชุมชน ให้สามารถจัดทำแผนงาน/โครงการเพื่อแก้ปัญหา สร้างความรู้ ความเข้าใจ เกิดแนวร่วมในชุมชนให้เห็นพิษภัยของอาหารที่ใช้สารเคมี ทั้งอาหารแปรรูป ชาไทย ที่มีสีสังเคราะห์ปนเปื้อนในอาหาร และอาหารทะเล ที่มีสารฟอร์มาลีน โลหะหนัก สารหนู สารตะกั่วปนเปื้อนในอาหาร โดยส่งเสริมการผลิตอาหารปลอดภัย และเสริมสร้างความรอบรู้ให้ผู้บริโภคฉลาดเลือก เนื่องจากผู้ปกครองยังมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของอาหารต่อการพัฒนาสมอง และบางส่วนคิดว่าภาวะเตี้ยในเด็กเป็นเรื่องปกติ และการสร้างนิสัยการกินที่ดีเป็นหน้าที่หลักของครู การส่งเสริมให้เด็กทุกคนได้รับสารอาหารที่เพียงพอเหมาะสมตามวัย และร่วมกันแก้ปัญหาของคนในชุมชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่ออนาคตของเด็กและเยาวชน จ.ปัตตานี ที่จะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ สามารถพัฒนาบ้านเมือง และเป็นแกนนำสร้างสังคมสุขภาวะยั่งยืน นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ปัญหาภาวะทางโภชนาการของเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พบว่าปัจจุบันมีจำนวนกว่า 40,000 คน ที่ประสบปัญหาตั้งแต่ในครรภ์มารดาเมื่อคลอดออกมามีน้ำหนักไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนด ขาดสารอาหาร เตี้ย แคระ แกร็น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสติปัญญา ทั้งนี้ด้วยสาเหตุหลักคืออาจจะมาจากความไม่พร้อมของครอบครัว ไม่มีอาชีพไม่มีรายได้ มาจุนเจือเลี้ยงดู ปล่อยปละละเลย จนทำให้เด็กขาดการดูแลเอาใจใส่ ส่งผลต่อการเรียนการศึกษา รวมถึงการมีงานทำและเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่อย่างเร่งด่วน โดยศอ.บต.จะเป็นศูนย์กลางในการผลักดันชี้นำแนวทาง หนุนเสริมเติมเต็มเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน ลดอัตราของจำนวนเด็กที่ประสบปัญหาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่เปรียบเสมือนลูกหลานของเราเติบโตเป็นเด็กที่มีคุณภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงมีสติปัญญาที่ดีและในภายภาคหน้าสามารถเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญในการร่วมกันคลี่คลายปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป ผศ.ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ ม.อ. กล่าวว่า การเข้าถึงอาหารปลอดภัย รวมทั้งความรอบรู้และพฤติกรรมของประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีปัญหาค่อนข้างสูงกว่าพื้นที่อื่น สถาบันนโยบายสาธารณะ ม.อ. จึงเร่งบูรณาการทำงานเครือข่ายนักวิชาการทั้งในและนอกพื้นที่ ช่วยเป็นพี่เลี้ยงหนุนเสริมการทำงานส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ สร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน โดยเพิ่มขีดความสามารถของกลไกหน่วยงานในพื้นที่ ให้เกิดแผนปฏิบัติการจัดการระบบอาหารอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ใช้องค์ความรู้ทางวิชาการขยายผลเชิงนโยบาย และเกิดการเรียนรู้ของเครือข่ายที่ทำงานในพื้นที่ อาทิ เครือข่ายตลาดนัดอาหารเช้าโรงเรียน 6 แห่งใน จ.ปัตตานี ให้นักเรียนเป็นผู้ประกอบการ ผลิตอาหารปลอดภัย เพิ่มรายได้ในครัวเรือน ส่งเสริมโครงการปลูกผักยกแคร่ สร้างโรงเรือนปลูกผักในที่สูงป้องกันวัชพืช ทำให้กลไกชุมชนจังหวัดปัตตานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี เป็นพื้นที่ต้นแบบที่เข้มแข็ง ช่วยสร้างแนวทางการกำหนดนโยบายที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด@24 ก.ย. 67 15:47การเรียนการสอนสาขาวิชาการจัดการระบบสุขภาพ ปีการศึกษา 2568 และกิจกรรมของหลักสูตร
สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดพิธีไหว้ครูและรับขวัญบัณฑิต ประจำปีการศึกษา 2565-2566 : วันที่ 17 กันยายน 2567 สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดพิธีไหว้ครูและรับขวัญบัณฑิต ประจำปีการศึกษา 2565-2566 ณ ห้องประชุม 1402 ชั้น 14 สถาบันนโยบายสาธารณะ (สนส.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายในงานมีการร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา และรุ่นพี่ รุ่นน้อง รวมถึงคณาจารย์ได้พบปะและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี@24 ก.ย. 67 12:11การบูรณาการความมั่นคงทางอาหารตลอดห่วงโซ่สงขลา-พัทลุง
ประชุมภาคีเครือข่ายบูรณาการขับเคลื่อนงานระบบอาหารในจังหวัดพัทลุง (เตรียมเวที โชว์ แชร์ เชื่อม แผนงานอาหาร) : แนวทางการขับเคลื่อนเส้นทางอาหารปลอดภัยจังหวัดพัทลุง พื้นที่ต้นแบบ การจัดการอาหาร ทะเลสาบ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ “บ้านช่องฟืน” ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน และพื้นที่ต้นแหร กลไก / ระบบสนับสนุน (การสร้างคน การวิเคราะห์ความท้าทายทั้งเก่าและใหม่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสร้างคน / นวัตกรรม ระบบอาหารสร้างสรรค์ ชุมชน การออกแบบ การสื่อสาร) วิธีการการขับเคลื่อน 1) Mapping ข้อมูล (ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายนน้ำ), คน สร้าง Model 2) เส้นทางอาหารเก็บที่ไหน (ฐานข้อมูล) เน้นในเกษตรกรคัดเชิงระบบ ระยะทาง มีปัจจัยอื่น ๆ เก็บข้อมูล 3) ตลาดเชิงระบบ สื่อสาร การจัดการ (ถ้าผู้บริโภค++) , เชื่อมโยง ผู้ค้ารายย่อย สร้างกลไก 4) สร้าง Dream team เป็นการจัดการเชิงระบบ 5) บูรณาการอาหารปลอดภัยจังหวัดพัทลุง เกษตรอินทรีย์ 8 อำเภอ 31 ราย 6) ยกระดับตัวเครือข่าย, Blue baseline กำหนดตัวชี้วัดความมั่นคงทางอาหาร@24 ก.ย. 67 11:31โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
การเข้าร่วมการประชุมพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายจัดทำแผนและเขียนโครงการลงในระบบเว็ปไซต์พื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ : -@23 ก.ย. 67 15:35โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
การประชุมปฏิบัติการสรุปผลและถอดบทเรียนโครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ และพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย นำร่องจังหวัดลำพูนและน่าน : -@23 ก.ย. 67 15:26โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
การเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเรื่องแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่คำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ : -@23 ก.ย. 67 15:22โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อการกลั่นกรองและกำหนดขอบเขตการประเมินผลกระทบทางสุขภาพโครงการฯ : -@23 ก.ย. 67 15:18โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ติดตามความก้าวหน้าพื้นที่ อบต.น้ำพุ : -@23 ก.ย. 67 15:14โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ติดตามความก้าวหน้าพื้นที่ อบต.ป่าร่อน : -@23 ก.ย. 67 15:13โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
หารือแนวทางการประเมิน SROI การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย : เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และทีมงาน ได้หารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อกำหนดแนวทางการประเมิน Social Return on Investment (SROI) สำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่สาธารณะและการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในชุมชน การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางที่ชัดเจนในการนำ SROI มาใช้ประเมินผลตอบแทนทางสังคมต่อไป@23 ก.ย. 67 13:28การดำเนินงานขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดปัตตานี
ตลาดนัดเด็กน้อยแก้มใส โรงเรียนบ้านสิเดะตำบลสะดาวา : ตลาดนัดอาหารโรงเรียนบ้านสิเดะ ต.สะดาวา@21 ก.ย. 67 18:11โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
คณะทีมงานสื่อ PA จังหวัดตรัง และพี่เลี้ยงจังหวัดตรัง พัฒนาสื่อสาธารณะในพื้นที่จังหวัดตรัง : "สื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายจังหวัดตรัง: เยาวชนหาดสำราญสืบสานศิลปะการแสดงโนราผสมผสานกับการออกกำลังกาย รองรับสังคมสูงวัยด้วยกิจกรรมที่กระฉับกระเฉงในตำบลน้ำผุดและโคกหล่อ" วันที่ 17 กันยายน 2567 คณะทีมงานสื่อ PA จังหวัดตรัง และพี่เลี้ยงจังหวัดตรัง พัฒนาสื่อสาธารณะในพื้นที่จังหวัดตรัง ประเด็นที่หารือ: การจัดทำคลิปสื่อสาธารณะเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน สาระสำคัญ: 1: "กิจกรรมทางกาย สูงวัยบ้านน้ำผุด สุขภาพดี" - เนื้อหา : การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลน้ำผุด ผ่านกิจกรรมออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวทางกาย เดินไปวัด ปลูกผักปลอดสารพิษ รำไม้พลอง ณ พื้นที่สาธารณะ องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุด จังหวัดตรัง "เด็กและเยาวชนสุขภาพดี ชีวีสดใสด้วยโนรา" - เนื้อหา: การส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชนในตำบลหาดสำราญ ด้วยการผสมผสานศิลปะการแสดงโนราเข้ากับการออกกำลังกาย ณ หาดสำราญ องค์การบริหารส่วนตำบลหาดสำราญ จังหวัดตรัง "ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย ออกกำลังกายด้วยการรำไม้พลอง" - เนื้อหา: การส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยการรำไม้พลองสำหรับผู้สูงอายุและการใช้พื้นที่สาธารณะที่มีประสิทธิภาพในชุมชนตำบลโคกหล่อ ณ เทศบาลตำบลโคกหล่อ จังหวัดตรัง การประชุมได้ข้อสรุปในการพัฒนา 3 คลิปสื่อสาธารณะ เพื่อสื่อสารแนวทางการส่งเสริมสุขภาพและกิจกรรมทางกาย โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายคือผู้สูงอายุและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดตรัง คณะทำงานจะประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่เพื่อจัดทำสื่อให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชน@20 ก.ย. 67 10:33โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ประชุมวางแผนถอดบทเรียนและการจัดเวทีสาธารณะเพื่อพัฒนานโยบายและพื้นที่สุขภาวะต้นแบบ : การประชุมวางแผนเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 คณะทำงานพี่เลี้ยง อาจารย์สถาปัตยกรรม เครือข่ายสื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายภาคเหนือ และท้องถิ่นนำร่องในโครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ภาคเหนือ จังหวัดน่านและลำพูน มุ่งเน้นการถอดบทเรียนและการจัดเวทีสาธารณะเพื่อพัฒนานโยบายและพื้นที่สุขภาวะต้นแบบ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างท้องถิ่น 20 แห่ง กระบวนการถอดบทเรียน แบ่งกลุ่มเพื่อระดมความคิดเห็น โดยแต่ละกลุ่มสรุปผลจากรูปแบบกิจกรรมและการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบสุขภาวะ แบ่งโจทย์การถอดบทเรียนเป็น 3 ประเด็นหลัก: 1. เกิดแผนงาน/โครงการ สนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่พอเพียงและคำนึงถึงความปลอดภัยใน อปท. 2. มีเครือข่ายที่มีศักยภาพในการพัฒนาแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่คำนึงถึงความปลอดภัย 3. เกิดพื้นที่ต้นแบบสุขภาวะที่เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย นำร่อง เวทีเสวนา: “ถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมและพื้นที่ต้นแบบสุขภาวะ และแนวทางการพัฒนาต่อ” ประเด็นการแลกเปลี่ยน: 1. นโยบายในการสนับสนุนให้เกิดแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (Physical activity: PA) ใน อปท.เขตรับผิดชอบของท่าน/หรือไม่ อย่างไร 2. โครงการตามแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายได้รับงบประมาณสนับสนุนไปดำเนินการหรือไม่ /ทำโครงการแล้วเกิดผลลัพธ์อย่างไรบ้าง /หน่วยงาน/กลุ่ม/เครือข่ายใดบ้างได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 3. การส่งเสริม PA ในท้องถิ่นท่านมีอะไรทำได้ดี/และไม่ดี เกิดจากปัจจัยเอื้อให้สำเร็จอะไรบ้าง ปัจจัยอุปสรรคอะไรบ้าง 4. พื้นที่นำร่องต้นแบบสุขภาวะ PA เมื่อได้มีแบบทางสถาปัตยกรรมแล้ว จะนำแบบไปปฏิบัติจริงได้หรือไม่ มีแนวทางอย่างไรบ้าง 5. แนวทางการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย PA แต่ละท้องถิ่นจะดำเนินการอย่างไรต่อ@18 ก.ย. 67 15:26โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
การประเมินผลกระทบทางสุขภาพจากโครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พื้นที่ อบต.น้ำผุด และ อบต.ปะเหลียน จ.ตรัง : “การประเมินผลกระทบทางสุขภาพจากโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย จ.ตรัง” เมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2567 เวลา 09.00-16.00 น. ณ องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุด และองค์การบริหารส่วนตำบลปะเหลียน จังหวัดตรัง ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การประเมินผลกระทบทางสุขภาพจากโครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย” ในพื้นที่ อบต.น้ำผุด และ อบต.ปะเหลียน โดยมีอาจารย์และนักศึกษาปริญญาโทจากสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (สนส.ม.อ.) เข้าร่วมในการศึกษาวิทยาการการประเมินผลกระทบทางสุขภาพและลงพื้นที่ปฏิบัติจริง การประชุมครั้งนี้เน้นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการประเมินผลกระทบทางสุขภาพจากการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมกิจกรรมทางกายในพื้นที่ ซึ่งครอบคลุมทั้งเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้บริหารท้องถิ่น บุคลากรท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ และภาคีเครือข่ายในจังหวัดตรัง กิจกรรมสำคัญในการประชุมเชิงปฏิบัติการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ ดังนี้ 1. การทำแผนและโครงการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย 2. การพัฒนาพื้นที่สุขภาวะเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่หลากหลายและเหมาะสมกับทุกวัย 3. การสนับสนุนโครงการย่อย ในพื้นที่ผ่านโครงการหลักและกองทุนสุขภาพตำบล การประชุมได้สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการประเมินผลกระทบทางสุขภาพทั้งในแง่บวกและด้านที่ต้องปรับปรุง ข้อมูลที่ได้รับจากการประเมินครั้งนี้จะถูกนำเสนอคืนแก่ท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกายในพื้นที่อย่างยั่งยืนในอนาคต@18 ก.ย. 67 14:35กองทุนจังหวัดภูเก็ต
ประชุมคณะอนุกรรมการครั้งที่ 2/2567 : 1.ได้ข้อสรุปการดำเนินการทั้ง3 โครงการที่จัดในปี 2567 ได้ข้อเสนอแนะ อุปสรรค ปัญหาทั้ง 3 โครงการและแนวทางในการดำเนินการปรับแก้ไขเพื่อใช้ในการวางแผนในปี2568 2.ได้แนวทางในการถอดบทเรียนประจำปี 2567 3.ได้วันเวลาในการจัดทำแผนประจำปี 2568@17 ก.ย. 67 20:54โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสาธารณะเรื่องแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่คำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่ นำร่อง 12 อปท. อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี : “เขื่องใน”KICK OFF กิจกรรมทางกาย พาเหรดโชว์ผลงานปิดโครงการ นอภ.ย้ำอยากเห็นอปท.ร่วมPAทั้งอำเภอ ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเขื่องใน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 คณะทำงานโครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย(Physical Activity) หรือ PA และการสื่อสารสาธารณะระดับตำบลและอำเภอ ในพื้นที่นำร่อง ได้จัดการประชุมสรุปผลงานโครงการฯหลังดำเนินกิจกรรมครบตามวาระระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม 2567โดยมีดร.เพ็ญ สุขมาก ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เปิดการประชุม มีอปท. 12 แห่งร่วมงานเพื่อนำเสนอผลงาน ตลอดจนสะท้อนปัญหา อุปสรรค ความต้องการเพื่อถอดบทเรียนนำไปสู่การเดินหน้าต่อยอดต่อไป สำหรับพื้นที่ของอ.เขื่องใน ที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย เทศบาลตำบลเขื่องใน ,อบต.หัวดอน, อบต.ศรีสุข, อบต.ท่าไห ,อบต.แดงหม้อ, อบต.กลางใหญ่, อบต.นาคำใหญ่ ,อบต.ก่อเอ้ , อบต.ค้อทอง, อบต.ธาตุน้อย, เทศบาลตำบลบ้านกอก และเทศบาลตำบลห้วยเรือ การนำเสนอผลงานส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่สุขภาวะของผู้สูงอายุ โดยมีโรงเรียนผู้สูงอายุเป็นจุดศูนย์กลาง ส่วนใหญ่พบว่ามีโรคฮิตประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต หลอดเลือดสมอง และมีพฤติกรรมกินอาหารรสจัด ส่วนปัญหาอุปสรรคในบางพื้นที่ เช่น อบต.ท่าให ต้องปรับทัศนคติผู้สูงอายุให้เข้าใจถึงปัญหาสุขภาพจากการใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องอาหาร เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงซึ่งยอมรับว่ายากแต่ก็ต้องทำค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่อบต.นาคำใหญ่ ระบุว่าการสร้างแรงตระหนักในการมีส่วนร่วมกิจกรรมทางกายของกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเยาวชนยังไม่เข้มแข็งพอเนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิด และเกรงว่าเมื่อไม่มีงบประมาณมาสนับสนุนจะทำให้แรงขับเคลื่อนแผ่วลงขาดความต่อเนื่อง ในครั้งนี้ได้มีการเสนอแผนปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณที่ว่าการอำเภอรองรับกิจกรรมทางกายโดยทีมนักวิจัย สถาปนิกศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำโดยผศ.กตัญญู หอสูติสิมา คณะสถาปัตย์ฯมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และนายชุนันท์ วามะขัน เป็นผู้ออกแบบ ผนวกกับเทศบาลจะมีการปรับพื้นที่และย้ายตลาดสดอีกด้วย ส่วนในภาคบ่ายมีกิจกรรมKICK OFF เวทีสาธารณะสวนฉำฉา หน้าหอประชุมที่ว่าการอำเภอเขื่องในโดยมีนายภัทรพล สารการ นายอำเภอเขื่องใน เป็นประธานเปิดงาน นายไพฑูรย์ จิตทวี นายกเทศมนตรีตำบลเขื่องใน กล่าวรายงาน ซึ่งมีการจัดแสดงกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมทางกายของนักเรียน กลุ่ม ชมรม เครือข่ายมวลชนในแต่ละชุมชน และจัดเวทีเสวนา เรื่องสุขภาวะกิจกรรมทางกายชุมชน ซึ่งผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายไพฑูรย์ จิตทวี นายกเทศมนตรีตำบลเขื่องใน นายชูวิทย์ ธานี นายแพทย์สาธารณสุขอำเภอเขื่องใน นายสุริยา บุญประทาน นายกอบต.ก่อเอ้ ดต.จำรูญสุข ภูวพงศ์ รองนายกอบต.หัวดอน โดยมีนางเสาวนีย์ กิตติพิทชานนท์ อ.คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ดำเนินรายการ ดต.จำรูญสุข ภูวพงศ์ รองนายกอบต.หัวดอน เผยจุดแข็งของอบต.หัวดอนมีธรรมนูญสุขภาพตำบลแห่งแรกของจังหวัดเมื่อ 22 ก.พ.2560 นับว่าเป็นตำบลเข้มแข็งระดับต้นๆของจังหวัด โรงเรียนผู้สูงอายุจบไปแล้ว 7 รุ่น ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 8 ส่วนกิจกรรมทางกายได้รับการเสริมข้อมูลจากนางชาดา โพธิ์ขำ ปลัดอบต.หัวดอนว่าได้สร้างแรงตระหนักผ่านเจ้าหน้าที่เป็นแบบอย่าง มีข้าราชการพร้อมด้วยอสม.เป็นแกนนำในการออกกำลังกายเชิงนันทนาการ เช่น เต้นแอร์โรบิค โดยจัดทุกวันพุธ ส่วนนายสุริยา บุญประทาน นายกอบต.ก่อเอ้ ยืนยันว่าอบต.ก่อเอ้มีมาตรการเฝ้าระวังเรื่องลดอุบัติเหตุ เป็นผลงานที่ภูมิใจจากการรณรงค์อย่างจริงจังและสร้างจิตสำนึกต่อเนื่องจนเห็นผลสัมฤทธิ์ ที่ผ่านมาจำนวนอุบัติเหตุ และจำนวนผู้เสียชีวิตลดมาก ส่วนกิจกรรมทางกายก็ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันโดยยึดโยงกับโรงเรียนประถม และโรงเรียนผู้สูงอายุ แต่ก็มีข้อจำกัดเพราะทำตามงบประมาณที่จำกัด ด้านนายไพฑูรย์ จิตทวี นายกทต.เขื่องใน ชี้แจงว่าการจัดกิจกรรมทางกายจัดต่อเนื่อง มีการปรับพื้นที่สาธารณะให้เอื้อกับกิจกรรมทางกายและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย พร้อมรับปากที่จะจัดกิจกรรมลักษณะนันทนาการทุกดือน หรือเดือนละสองครั้ง ตนยืนยันที่ผลักดันอย่างเต็มที่ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณเป็นเงื่อนไขเชิงบริหารจัดการเนื่องจากเทศบาลมีงบฯจำกัด จึงขอฝากผ่านนักการเมืองรัฐบาลช่วยสนับสนุนงบประมาณด้วย อนึ่งอำเภอเขื่องในมี 19 อปท.เข้าร่วมโครงการกิจกรรมทางกาย หรือPA 12 อปท. ยังเหลือ 7 พื้นที่ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ในครั้งนี้นายภัทรพล สารการ นายอำเภอเขื่องใน ได้เชิญชวนอบต.ที่เหลืออีก 7 พื้นที่เข้าร่วมโครงการในโอกาสต่อไปเพื่อให้กิจกรรมทางกายมีพลังเต็มทั้งอำเภอ ในครั้งนี้ดร.เพ็ญ สุขมาก ผอ.สถาบันนโยบายสาธารณะ ม.สงขลานครินทร์ กล่าวแสดงความยินดีและพึงพอใจต่อผลงานที่อปท.ร่วมกันสร้าง และหวังว่าโอกาสหน้าโครงการจะได้รับการสนับสนุนผลักดันจากผู้บริหารแต่ละอปท.เพื่อสร้างความมั่นคงในสุขภาพของคนในชุมชน ลดความเสี่ยงความเจ็บป่วยจากโรคNCD ซึ่งแฝงอยู่กับพฤติกรรมอาชีพ การทำงาน การเดินทาง ของแต่ละคนในชีวิตประจำวันนั่นเอง อีกทั้งคาดหวังกับการสร้างกลไกให้เอื้อต่อการการเข้าถึง การรวมกลุ่มเพื่อสร้างกิจกรรมสร้างชุมชนเข้มแข็ง มีระบบ กติกาข้อตกลงร่วมกันกับองค์กร หน่วยงาน และสามารถที่จะเขียนโครงการเพื่อขอรับงบฯสนับสนุนจากองค์กรต่างๆได้ ด้านนางสาวจงกลนี ศิริรัตน์ ผู้รับผิดชอบโครงการเขต 10 ได้กล่าวย้ำว่าการทำงานร่วมกันที่ผ่านมาอยากให้อปท.นำไปถอดบทเรียนนำไปสู่การต่อยอด แม้วันนี้จะเป็นการสรุปผลปิดโครงการภายใต้นิยาม Kick Off แต่คณะทำงานโครงการต้องการให้อปท.เริ่มบทบาทสานต่อด้วยตนเองKick Off โดยคณะทำงานโครงการจะอยู่เบื้องหลังเป็นพี่เลี้ยงให้ เพื่อต่อยอดสร้างเครือข่ายให้เห็นผลต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ,มูลนิธิประชาสังคมอุบลราชธานี .................................สมศักดิ์ รัฐเสรี (ทีมสื่อ PA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) รายงาน@16 ก.ย. 67 16:24โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสาธารณะเรื่องแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่คำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่นำร่อง 8 อปท. อำเภอหัวตะพาน จังหวัด อำนาจเจริญ : “เขื่องใน”KICK OFF กิจกรรมทางกาย พาเหรดโชว์ผลงานปิดโครงการ นอภ.ย้ำอยากเห็นอปท.ร่วมPAทั้งอำเภอ ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเขื่องใน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 คณะทำงานโครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย(Physical Activity) หรือ PA และการสื่อสารสาธารณะระดับตำบลและอำเภอ ในพื้นที่นำร่อง ได้จัดการประชุมสรุปผลงานโครงการฯหลังดำเนินกิจกรรมครบตามวาระระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม 2567โดยมีดร.เพ็ญ สุขมาก ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เปิดการประชุม มีอปท. 12 แห่งร่วมงานเพื่อนำเสนอผลงาน ตลอดจนสะท้อนปัญหา อุปสรรค ความต้องการเพื่อถอดบทเรียนนำไปสู่การเดินหน้าต่อยอดต่อไป สำหรับพื้นที่ของอ.เขื่องใน ที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย เทศบาลตำบลเขื่องใน ,อบต.หัวดอน, อบต.ศรีสุข, อบต.ท่าไห ,อบต.แดงหม้อ, อบต.กลางใหญ่, อบต.นาคำใหญ่ ,อบต.ก่อเอ้ , อบต.ค้อทอง, อบต.ธาตุน้อย, เทศบาลตำบลบ้านกอก และเทศบาลตำบลห้วยเรือ การนำเสนอผลงานส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่สุขภาวะของผู้สูงอายุ โดยมีโรงเรียนผู้สูงอายุเป็นจุดศูนย์กลาง ส่วนใหญ่พบว่ามีโรคฮิตประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต หลอดเลือดสมอง และมีพฤติกรรมกินอาหารรสจัด ส่วนปัญหาอุปสรรคในบางพื้นที่ เช่น อบต.ท่าให ต้องปรับทัศนคติผู้สูงอายุให้เข้าใจถึงปัญหาสุขภาพจากการใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องอาหาร เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงซึ่งยอมรับว่ายากแต่ก็ต้องทำค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่อบต.นาคำใหญ่ ระบุว่าการสร้างแรงตระหนักในการมีส่วนร่วมกิจกรรมทางกายของกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเยาวชนยังไม่เข้มแข็งพอเนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิด และเกรงว่าเมื่อไม่มีงบประมาณมาสนับสนุนจะทำให้แรงขับเคลื่อนแผ่วลงขาดความต่อเนื่อง ในครั้งนี้ได้มีการเสนอแผนปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณที่ว่าการอำเภอรองรับกิจกรรมทางกายโดยทีมนักวิจัย สถาปนิกศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำโดยผศ.กตัญญู หอสูติสิมา คณะสถาปัตย์ฯมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และนายชุนันท์ วามะขัน เป็นผู้ออกแบบ ผนวกกับเทศบาลจะมีการปรับพื้นที่และย้ายตลาดสดอีกด้วย ส่วนในภาคบ่ายมีกิจกรรมKICK OFF เวทีสาธารณะสวนฉำฉา หน้าหอประชุมที่ว่าการอำเภอเขื่องในโดยมีนายภัทรพล สารการ นายอำเภอเขื่องใน เป็นประธานเปิดงาน นายไพฑูรย์ จิตทวี นายกเทศมนตรีตำบลเขื่องใน กล่าวรายงาน ซึ่งมีการจัดแสดงกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมทางกายของนักเรียน กลุ่ม ชมรม เครือข่ายมวลชนในแต่ละชุมชน และจัดเวทีเสวนา เรื่องสุขภาวะกิจกรรมทางกายชุมชน ซึ่งผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายไพฑูรย์ จิตทวี นายกเทศมนตรีตำบลเขื่องใน นายชูวิทย์ ธานี นายแพทย์สาธารณสุขอำเภอเขื่องใน นายสุริยา บุญประทาน นายกอบต.ก่อเอ้ ดต.จำรูญสุข ภูวพงศ์ รองนายกอบต.หัวดอน โดยมีนางเสาวนีย์ กิตติพิทชานนท์ อ.คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ดำเนินรายการ ดต.จำรูญสุข ภูวพงศ์ รองนายกอบต.หัวดอน เผยจุดแข็งของอบต.หัวดอนมีธรรมนูญสุขภาพตำบลแห่งแรกของจังหวัดเมื่อ 22 ก.พ.2560 นับว่าเป็นตำบลเข้มแข็งระดับต้นๆของจังหวัด โรงเรียนผู้สูงอายุจบไปแล้ว 7 รุ่น ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 8 ส่วนกิจกรรมทางกายได้รับการเสริมข้อมูลจากนางชาดา โพธิ์ขำ ปลัดอบต.หัวดอนว่าได้สร้างแรงตระหนักผ่านเจ้าหน้าที่เป็นแบบอย่าง มีข้าราชการพร้อมด้วยอสม.เป็นแกนนำในการออกกำลังกายเชิงนันทนาการ เช่น เต้นแอร์โรบิค โดยจัดทุกวันพุธ ส่วนนายสุริยา บุญประทาน นายกอบต.ก่อเอ้ ยืนยันว่าอบต.ก่อเอ้มีมาตรการเฝ้าระวังเรื่องลดอุบัติเหตุ เป็นผลงานที่ภูมิใจจากการรณรงค์อย่างจริงจังและสร้างจิตสำนึกต่อเนื่องจนเห็นผลสัมฤทธิ์ ที่ผ่านมาจำนวนอุบัติเหตุ และจำนวนผู้เสียชีวิตลดมาก ส่วนกิจกรรมทางกายก็ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันโดยยึดโยงกับโรงเรียนประถม และโรงเรียนผู้สูงอายุ แต่ก็มีข้อจำกัดเพราะทำตามงบประมาณที่จำกัด ด้านนายไพฑูรย์ จิตทวี นายกทต.เขื่องใน ชี้แจงว่าการจัดกิจกรรมทางกายจัดต่อเนื่อง มีการปรับพื้นที่สาธารณะให้เอื้อกับกิจกรรมทางกายและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย พร้อมรับปากที่จะจัดกิจกรรมลักษณะนันทนาการทุกดือน หรือเดือนละสองครั้ง ตนยืนยันที่ผลักดันอย่างเต็มที่ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณเป็นเงื่อนไขเชิงบริหารจัดการเนื่องจากเทศบาลมีงบฯจำกัด จึงขอฝากผ่านนักการเมืองรัฐบาลช่วยสนับสนุนงบประมาณด้วย อนึ่งอำเภอเขื่องในมี 19 อปท.เข้าร่วมโครงการกิจกรรมทางกาย หรือPA 12 อปท. ยังเหลือ 7 พื้นที่ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ในครั้งนี้นายภัทรพล สารการ นายอำเภอเขื่องใน ได้เชิญชวนอบต.ที่เหลืออีก 7 พื้นที่เข้าร่วมโครงการในโอกาสต่อไปเพื่อให้กิจกรรมทางกายมีพลังเต็มทั้งอำเภอ ในครั้งนี้ดร.เพ็ญ สุขมาก ผอ.สถาบันนโยบายสาธารณะ ม.สงขลานครินทร์ กล่าวแสดงความยินดีและพึงพอใจต่อผลงานที่อปท.ร่วมกันสร้าง และหวังว่าโอกาสหน้าโครงการจะได้รับการสนับสนุนผลักดันจากผู้บริหารแต่ละอปท.เพื่อสร้างความมั่นคงในสุขภาพของคนในชุมชน ลดความเสี่ยงความเจ็บป่วยจากโรคNCD ซึ่งแฝงอยู่กับพฤติกรรมอาชีพ การทำงาน การเดินทาง ของแต่ละคนในชีวิตประจำวันนั่นเอง อีกทั้งคาดหวังกับการสร้างกลไกให้เอื้อต่อการการเข้าถึง การรวมกลุ่มเพื่อสร้างกิจกรรมสร้างชุมชนเข้มแข็ง มีระบบ กติกาข้อตกลงร่วมกันกับองค์กร หน่วยงาน และสามารถที่จะเขียนโครงการเพื่อขอรับงบฯสนับสนุนจากองค์กรต่างๆได้ ด้านนางสาวจงกลนี ศิริรัตน์ ผู้รับผิดชอบโครงการเขต 10 ได้กล่าวย้ำว่าการทำงานร่วมกันที่ผ่านมาอยากให้อปท.นำไปถอดบทเรียนนำไปสู่การต่อยอด แม้วันนี้จะเป็นการสรุปผลปิดโครงการภายใต้นิยาม Kick Off แต่คณะทำงานโครงการต้องการให้อปท.เริ่มบทบาทสานต่อด้วยตนเองKick Off โดยคณะทำงานโครงการจะอยู่เบื้องหลังเป็นพี่เลี้ยงให้ เพื่อต่อยอดสร้างเครือข่ายให้เห็นผลต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ,มูลนิธิประชาสังคมอุบลราชธานี .................................สมศักดิ์ รัฐเสรี (ทีมสื่อ PA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) รายงาน@16 ก.ย. 67 15:42การดำเนินงานขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดปัตตานี
กิจกรรมถอดบทเรียนตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ : 1.กิจกรรมสร้างความรอบรู้ทางอาหารและโภชนาการ ความรอบรู้ด้านสุขภาพคือความสามารถหรือลักษณะของบุคคลในการเข้าถึงเข้าใจข้อมูลสุขภาพตอบโต้สักถามจนสามารถประเมินตัดสินใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลือกรับบริการเพื่อการจัดการสุขภาพตนเองได้อย่างเหมาะสมและสามารถบอกต่อผู้อื่นได้ 1.การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพและบริการสุขภาพคุณลักษณะที่สำคัญ 1 เลือกแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพและบริการสุขภาพรู้วิธีการค้นหาและการใช้อุปกรณ์ในการค้นหา 2 ค้นหาข้อมูลสุขภาพและบริการสุขภาพที่ถูกต้อง 3 สามารถตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่งได้เพื่อยืนยันความเข้าใจของตนเองและได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับนำไปใช้ในการดูแลสุขภาพตนเอง 2.ความรู้ความเข้าใจ 1 มีความรู้และจำในเนื้อหาสาระสำคัญด้านสุขภาพ 2 สามารถอธิบายถึงความเข้าใจในประเด็นเนื้อหาสาระด้านสุขภาพในการที่จะนำไปปฏิบัติ 3 สามารถวิเคราะห์เปรียบเทียบเนื้อหาแนวทางการปฏิบัติด้านสุขภาพได้อย่างมีเหตุผล 3.ทักษะการสื่อสาร 1 สามารถสื่อสารข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพด้วยวิธีการพูดอ่านเขียนให้บุคคลอื่นเข้าใจ 2 สามารถโน้มน้าวให้บุคคลอื่นยอมรับข้อมูลด้านสุขภาพ 4.ทักษะการตัดสินใจ 1 กำหนดทางเลือกและปฏิเสธหลีกเลี่ยงหรือเลือกวิธีการปฏิบัติเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี 2 ใช้เหตุผลหรือวิเคราะห์ผลดีผลเสียเพื่อการปฏิเสธหลีกเลี่ยงเลือกวิธีการปฏิบัติ3 สามารถแสดงทางเลือกที่เกิดผลกระทบน้อยต่อตนเองและผู้อื่น 5.ทักษะการจัดการตนเองการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 1 สามารถกำหนดเป้าหมายและวางแผนการปฏิบัติ2 สามารถปฏิบัติตามแผนที่กำหนดได้ 3 มีการทบทวนและปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติตนเพื่อให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง 6.การรู้เท่าทันสื่อ"บอกต่อ"1 ตรวจสอบความถูกต้องความน่าเชื่อถือของข้อมูลสุขภาพที่นำเสนอ 2 เปรียบเทียบวิธีการเลือกรับสื่อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น 3 ประเมินข้อความสื่อเพื่อชี้แนะแนวทางให้กับชุมชนหรือสังคม สังคมแห่งความรอบรู้ด้านสุขภาพคือสังคมที่มี 1 ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเข้าใจได้และสามารถปฏิบัติได้ 2 สถานบริการสาธารณสุขปรับข้อมูลด้านสุขภาพและการจัดบริการในสถานบริการสาธารณสุขให้เป็นลักษณะประชาชนเป็นศูนย์กลาง 3 สนับสนุนการเรียนรู้การศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิตและมีการพัฒนาทักษะเพื่อก่อให้เกิดการมีสุขภาพที่ดีเพื่อป้องกันโรคเรื้อรังโรคติดต่อและอุบัติเหตุ การจัดกิจกรรมตลาดนัดโภชนาการเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กในเรื่อง เด็กเตี้ยเด็กผอมเด็กอ้วน สามารถทำได้โดย -หาปัญหาสุขภาพในพื้นที่ -วิเคราะห์ปัญหา -ปัจจัยที่เป็นสาเหตุ -วิธีการแก้ปัญหา ประชาชนในพื้นที่กลุ่มต่างๆจะต้องเข้าถึงข้อมูลเข้าใจปัญหาสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้วิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่เพื่อลดการเจ็บป่วยลดการเข้ารักษาพยาบาลโดยไม่จำเป็นลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและคุณภาพของชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น 2.การจัดกิจกรรมตลาดนัดอาหารของแต่ละชุมชนในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 1.โรงเรียนวัดโคกหญ้าคาตำบลคลองใหม่ ความคิดเห็นของนักเรียนครูผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่รพ. สต มีดังนี้ -ข้อดีของการจัดตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ นักเรียนมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง,ทำให้มีการพบกันระหว่างผู้ปกครองและเด็กมีการทำงานร่วมกัน,ในระยะยาวเด็กไม่เจ็บป่วยง่าย,ไดรัยประทานอาหารที่มีประโยชน์สุขภาพแข็งแรง,ได้ฝึกทำอาหารเอง,ได้รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่,ทำให้เด็กได้รับประทานอาหารเช้าที่หลากหลาย,นักเรียนมีรายได้,ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์,มีน้ำหนักที่ผ่านเกณฑ์,ได้รู้จักอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากยิ่งขึ้น,ร่างกายเติบโตตามวัยสมส่วนมีความคิดที่ดีมีสมองที่ดี -อุปสรรคในการจัดตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ ต้นทุนอาหารค่อนข้างสูงอาหาร,แต่ละชนิดยังไม่ครบ 5 หมู่,มีการจัดการเรื่องการทอนตังยังไม่ดี,นักเรียนบางคนยังไม่รับประทาน,ผักเจ้าหน้าที่ในการดูแลยังไม่เพียงพอ แนวทางแก้ไข -เพิ่มการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง,ลดปริมาณวัตถุดิบ,เลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น,อยากให้มีคูปองในการไปซื้ออาหาร,ผักต้องเป็นชิ้นเล็กๆในการปรุงอาหาร,บอกต่อผู้ปกครองในวันที่จัดกิจกรรมตลาดอาหาร,เพิ่มความใส่ใจในการรับประทานอาหารของเด็กให้มากยิ่งขึ้น,ลดอาหารที่เป็นประเภทสำเร็จรูป,เพิ่มเมนูใหม่ๆในแต่ละสัปดาห์ 2.โรงเรียนบ้านล้อแตกตำบลบางโกระ ข้อดีในการจัดตลาดนัดอาหารสุขภาพ ฝึกการทำงานเป็นทีม,มีอาหารที่หลากหลาย,ได้ความรู้เรื่องโภชนาการเกี่ยวกับอาหาร,ได้ลงมือปฏิบัติจริง,มีความสนุก,เด็กๆได้มีกิจกรรมร่วมกันได้,รู้จักกับทางโรงเรียนอื่น,ได้ทำอาหารรับประทานเอง,อาหารที่เกิดขึ้นเกิดจากความคิดของนักเรียน,ได้ทำขนมที่มีประโยชน์,ได้รับประทานอาหารที่หลากหลาย,เด็กๆได้มีความรู้ในการทำอาหารด้วยตัวเอง,อาหารสะอาดสุขภาพดีร่างกายแข็งแรง,เด็กนักเรียนกล้าแสดงออกในการทำกิจกรรม,มีความสุขสนุกสนาน,เด็กได้รับสารอาหารที่ดีได้กินอาหารที่ปลอดภัย,มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำขนม -อุปสรรคในการจัดตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ ขาดวิทยากรที่ให้ความรู้เรื่องการทำขนม,มีเวลาเตรียมอุปกรณ์น้อย,เด็กขาดความรู้การคิดคำนวณต้นทุนกำไรขาดทุน,งบประมาณไม่เพียงพอ,มีเวลาขายน้อย,ขาดการประชาสัมพันธ์,พื้นที่แคบเกินไป,ขาดการประชาสัมพันธ์กับชุมชน -แนวทางแก้ไข เพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองและชุมชนทราบและเข้ามามีส่วนร่วม,เพิ่มรายการอาหารที่มีประโยชน์ให้มากขึ้นในทุกๆสัปดาห์,ทำป้ายประชาสัมพันธ์ตลาดนัดติดหน้าโรงเรียน,จัดให้มีหลักสูตรเสริม,เพิ่มกิจกรรมในการทำอาหาร,เพิ่มระยะเวลาในการขายและการเตรียมอุปกรณ์,อยากให้มีสื่อกิจกรรมเกี่ยวกับโภชนาการติดในโรงเรียน,เพิ่มระยะเวลาการจัดกิจกรรม 3.โรงเรียนบ้านควนลังงาตำบลทรายขาว -ข้อดีในการจัดตลาดอาหารสุขภาพ เด็กๆมีอาหารที่มีประโยชน์รับประทาน,มีความสนุกสนาน,ทำให้เด็กๆในโรงเรียนได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน,ทำให้มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับอาหารเพิ่มขึ้น,สร้างความสามัคคีในกลุ่มนักเรียน,เด็กๆได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น,ได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย,ทำให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรง,และนักเรียนได้รับประทานอาหารตอนเช้าที่หลากหลาย -อุปสรรคในการจัดตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารไม่สามารถไว้นานได้,การจัดเก็บการบริหารเวลาไม่เพียงพอ,การทิ้งขยะไม่ลงถัง,เด็กๆไม่ต่อแถวขณะซื้อ,มีการคำนวณต้นทุนที่ผิดพลาดทำให้ขาดทุน,ขาดความร่วมมือกันในกลุ่ม,ผู้ซื้อบ่นต้องรอคิวนาน,เวลาจัดการขายน้อยเกินไป,อุปกรณ์ทำอาหารไม่เพียงพอ -แนวทางการแก้ไข ต้องเตรียมอาหารที่สดๆใหม่ๆทุกวัน,วัตถุดิบต้องเลี้ยงในโรงเรียนเช่นไก่ปลา,ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ทุกวัน,จัดการการรอคิวมีบัตรคิว,ลดใช้วัสดุที่เป็นมลพิษเช่นโฟมกล่องพลาสติกใช้วัสดุที่ได้จากธรรมชาติเช่นใบตอง,ควรแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนคนซื้อคนขายคนเก็บเงิน,จัดให้ความรู้เรื่องการบริหารเงินให้เพียงพอรายรับรายจ่าย,ประยุกต์ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ให้เพียงพอ,ควรเก็บอาหารไว้ในตู้เย็นอีกและแสงแดด 4.โรงเรียนบ้านสิเดะตำบลสดาวา -ข้อดีการจัดตลาดอาหารนัดเพื่อสุขภาพ เด็กๆมีความสามัคคีร่าเริงแจ่มใสมีความสุขกับกิจกรรมที่เกิดขึ้น,ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ดีต่อสุขภาพ,กิจกรรมที่เกิดขึ้นสามารถนำไปเป็นอาชีพได้,มีความรู้เรื่องสูตรอาหารต่างๆ,อาหารที่เลือกมาทำหาวัตถุดิบได้ง่าย,เด็กได้รับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์,เด็กนักเรียนได้รู้จักอาหารและตระกนักถึงคุณค่าของอาหารที่มีประโยชน์,ได้เรียนรู้วิธีการกระบวนการการจัดการเมนูอาหารและการทำตลาด,อาหารตอนเช้ามีประโยชน์ทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่ผู้ปกครองบางท่านก็มาซื้ออาหารรับประทาน,รู้จักการทำรายรับรายจ่าย,ได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ -อุปสรรคในการทำตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ มีเวลาจำกัดในการเปิดตลาดทำให้ทำอาหารไม่ทัน,วัตถุดิบบางอย่างต้องหาจากนอกพื้นที่,ยังไม่รู้วิธีการจัดการไฟของกระทะทำให้อาหารไหม้,เด็กๆยังใช้วัตถุดิบแปรรูปทางอาหารมาใช้ในการปรุงอาหาร,อาหารหมดเร็วและบางอย่างสุกช้า,อุปกรณ์ในการทำอาหารไม่เพียงพอ,บางร้านอาหารไม่ครบ 5 หมู่,ต้นทุนสูงขายถูกทำให้ขาดทุน แนวทางแก้ไข อยากให้เพิ่มเวลาขยายเวลาในการเปิดตลาด,สร้างความรู้ความเข้าใจเสริมองค์ความรู้ในเรื่องเมนูอาหารเพื่อสุขภาพของเด็กๆให้มากขึ้น,อยากให้ชุมชนจัดทำหรือปลูกผักในพื้นที่เพื่อเป็นการหมุนเวียนใช้ในชุมชนและโรงเรียน,หาวัตถุดิบของใช้ที่ได้จากท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น,ต้องเตรียมอาหารไว้ก่อนล่วงหน้าเช่นสลัดโรล,เพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้นปริมาณอาหารเหมาะกับราคา,ปรับราคาให้สูงขึ้นเพื่อไม่ให้ขาดทุน,ซื้ออุปกรณ์เพิ่มขึ้น,หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป,ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในเรื่องเกี่ยวกับอาหารสุขภาพให้กับนักเรียนมากขึ้น 5.โรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ตำบลทุ่งพลา -ข้อดีในการจัดตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ เด็กๆชอบมีความสนุกสนานมีสีสัน,มีอาหารที่มีประโยชน์และมีโภชนาการที่ดีรับประทาน,เด็กๆได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่รสหวานมันเค็ม,ได้ความรู้และได้อิ่มท้อง,ได้รับอาหารที่ปลอดภัยครบ 5 หมู่,เด็กๆมีความสุขกับการทำอาหารและมีความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน,ทำให้เด็กมีสมาธิและมีสมองที่ดีขึ้นในระยะยาว,เด็กๆสนุกกับกิจกรรมและมีความรู้ในการประกอบอาชีพ,สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองนักเรียนและโรงเรียน,เด็กๆได้รับประทานอาหารเช้าทุกวันเด็กๆ,ได้มีความรู้เรื่องการทำอาหารที่ปลอดภัย,มีความสามารถความสามัคคีในหมู่คณะ,เด็กบางคนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาก็มีอาหารเช้ารับประทาน,เพิ่มทักษะชีวิตให้กับเด็กๆ,เด็กบางคนสามารถกินผักได้เพิ่มมากขึ้น,มีทักษะในการทำอาหารเพิ่มมากขึ้น,มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ได้รับมอบหมาย,อาหารที่เลือกมาทำให้ไม่อ้วนและไม่ผอมจนเกินไปในระยะยาวและมีสุขภาพที่แข็งแรง -อุปสรรคในการจัดตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูอาหารบางอย่างเป็นอุปสรรคในการนำมาประกอบที่โรงเรียน,ระยะเวลาในการทำอาหารรอนานทำเนื่องจากอุปกรณ์มีเพียงชุดเดียว,อาหารไม่เพียงพอกับการขาย,วัตถุดิบในการทำต้องให้ผู้ปกครองไปซื้อจึงต้องใช้เวลามาก,เครียดและกังวลกับอาหารที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าจนทำให้เหนื่อยและรู้สึกว่ายากลำบาก -แนวทางแก้ไข ทำเมนูง่ายๆพร้อมนำเสนอขาย,ให้ผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในการจำหน่าย,ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการคิดเมนู,จัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำในแต่ละวันเป็นหลายชุด,ในการทำกิจกรรมครั้งต่อไปควรเพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้น,จัดเตรียมอาหารให้เพียงพอต่อความต่อจำนวนประชากรที่เข้าร่วมกิจกรรม,วางแผนการทำแต่ละขั้นตอนอย่างเป็นระบบจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป 6.โรงเรียนบ้านคลองช้าง ข้อดีของการจัดกิจกรรมตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ เด็กๆได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์,เด็กๆได้รับประทานอาหารเช้าที่เพียงพอเพิ่มพลังสมอง,เด็กๆสนุกกับการเปิดตลาด,ทำให้รู้จักการวางแผนการใช้เงินรู้คุณค่าของเงิน,ฝึกทักษะด้านต่างๆให้กับนักเรียน,เด็กๆมีความคิดสร้างสรรค์,มีรายได้เสริมสามารถนำประกอบอาชีพได้ในอนาคต,เด็กๆรู้จักการนำผักผลไม้และสิ่งต่างๆมาใช้ในการประกอบอาหาร,เด็กๆรู้จักการบริหารเวลา -อุปสรรคของการจัดตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ ยังมีการใช้อาหารแปรรูปมาทำอาหาร,ยังมีการใช้กล่องโฟมสำหรับใส่อาหาร,มีการรอคิวที่ซื้ออาหารนาน,ยังมีการใช้ถุงพลาสติก,เด็กๆบางคนยังติดอาหารหวาน,ในการเปิดตลาดอาหารวันแรกมีขยะเยอะเพราะยังไม่สามารถจัดการได้ -แนวทางแก้ไข ให้เด็กๆพากระปุกใส่อาหารมา,รณรงค์ให้ลดใช้อาหารแปรรูป,เน้นการทำอาหารจากวัตถุดิบพื้นบ้าน,อาหารที่สามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ต้องทำตั้งไว้ก่อนเพื่อลดเวลาในการเข้าแถวของเด็กๆ,แนะนำให้เด็กๆพาแก้วน้ำหรือกระบอกน้ำมาเอง,การจัดการขยะเด็กที่กินเสร็จแล้วให้เก็บขยะก่อนเพื่อความสะอาดของโรงเรียน,พยายามให้เด็กบางคนที่ติดหวานลดหวานน้อยลงและให้เด็กเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น,จัดเตรียมถุงดำถังขยะให้พร้อมต่อการทิ้งขยะของผู้รับบริการ 3.ออกแบบไอเดียยกระดับกิจกรรมตลาดอาหารเพื่อสุขภาพของแต่ละพื้นที่ 1.โรงเรียนวัดโคกหญ้าคาตำบลคลองใหม่ เพิ่มการประชาสัมพันธ์ในชุมชนผ่านนักเรียนผู้ปกครองและผู้นำในหมู่บ้าน,มีการเล่นเกมต่างๆในวันที่จัดกิจกรรม,พยายามให้ผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียน,ต่อยอดการเลี้ยงนกกระทาเพื่อเพิ่มผลผลิตนำมาบริโภคในโรงเรียนและขายให้กับชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง,ปรับปรุงรสชาติให้อร่อย,ช่วยกันส่งเสริมผลผลิตในตำบล,เพิ่มเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย,เพิ่มร้านค้าที่มีอาหารหลากหลายและมีประโยชน์,ต้องมีการปลูกผักและส่งเสริมให้ทางโรงเรียนเลี้ยงนกกระทาเพิ่มเพื่อต่อยอดและปลูกผักในโรงเรียนปลูกผักเพื่อลดต้นทุน,จัดให้มีการสาธิตการทำอาหารที่มีประโยชน์,จัดกิจกรรมสะสมแต้มซื้อครบแถม 1 ,เปลี่ยนเมนูอาหารทุกอาทิตย์,เปิดตลาดนัดอาหารเป็นเดือนละครั้งและประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง 2.โรงเรียนบ้านล้อแตกตำบลบางโกระ ในวันจัดกิจกรรมให้ผู้ปกครองมามีส่วนร่วมและมีเกมต่างๆให้เด็กๆอนุบาล,เพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น,เพิ่มสินค้า OTOP ที่ทำมาจากสิ่งของในชุมชนออกบูธตามงานต่างๆ,เพิ่มเวลาในการขายจาก 2 อาทิตย์ครั้งเป็นอาทิตย์ละครั้ง,จัดให้ความรู้เรื่องอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์,จัดกิจกรรมสร้างความรู้เกี่ยวกับอาหารท้องถิ่นโบราณโดยให้คนในชุมชนมาสอน,เพิ่มการขายเป็นออนไลน์,ขยายให้เป็นตลาดนัดสุขภาพของตำบล 3.โรงเรียนบ้านควนลังงาตำบลทรายขาว จัดให้มีการออกไปขายในตลาดนัดชุมชนทุกวันศุกร์,ประกวดเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ,เชิญยูทูปเบอร์ชื่อดังมาชิมอาหารและประชาสัมพันธ์สู่โซเชียล,จัดระบบการซื้ออาหารเพิ่มบัตรคิว,จัดประชาสัมพันธ์เสียงตามสายของโรงเรียนและหมู่บ้านโปรโมทร้านค้าของตัวเองในวิธีต่างๆ,ให้ผู้ปกครองช่วยเสนอแนะเมนูเพิ่มขึ้น,หากมีกิจกรรมในโรงเรียนให้เสริมตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพเข้าไปด้วย,ให้ผู้ปกครองมาส่งวัตถุดิบพืชผักสวนครัวที่มีในบ้านมาใช้ในการประกอบอาหาร,ประกวดอาหารดีมีประโยชน์,ในวันจัดกิจกรรมให้มีการไลฟ์เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมดีๆมีประโยชน์ 4.โรงเรียนบ้านสิเดะตำบลสดาวา จัดตลาดนัดให้ใหญ่กว่าเดิม,ขยายให้มีอาหารที่หลากหลาย,ในวันจัดกิจกรรมให้มีเกมและสันทนาการเพิ่มมากขึ้น,ให้ผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในการทำอาหารขายด้วยกัน,จัดประกวดร้านเพื่อสุขภาพอาหารอร่อย,จัดตลาดนัดในชุมชนให้เด็กและผู้ปกครองได้นำอาหารเพื่อสุขภาพไปขาย,เพิ่มอาหารที่แปลกใหม่,จัดทำคูปองซื้ออาหารแล้วชิงโชคในวันจัดเก็บกิจกรรมใหญ่ๆในชุมชนจัดให้มีการนำตลาดนัดของอาหารไปร่วมด้วย,ในโรงเรียนเปิดให้คนนอกมาขายด้วยแต่ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ 5.โรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ตำบลทุ่งพลา ขยายเวลาในการจัดกิจกรรมให้มากขึ้น,จัดมหกรรมตลาดนัดเพื่อสุขภาพ,ให้ชุมชนนำสินค้าจากการเกษตรเช่นผักผลไม้ในชุมชนมาขายให้ผู้ปกครองนำพืชผักที่บ้านและไข่มาขายในโรงเรียน,เปิดตลาดนัดวันเว้นวันโดยให้ผู้ปกครองมาทำอาหารขายภายในโรงเรียน,จัดเป็นตลาดนัดของตำบลให้ทุกโรงเรียนมาขายอาหารรวมกัน,จัดให้มีการออกแบบกิจกรรมในตลาดนัดอาหาร,ปรับปรุงอาหารให้มีประโยชน์และสีสันสวยงาม,พัฒนาอุปกรณ์ในการใส่อาหารให้ถูกสุขลักษณะมากยิ่งขึ้น,หากภาคีเครือข่ายมาร่วมในการสนับสนุนของกิจกรรมโครงการอย่างต่อเนื่อง,เพิ่มเมนูเกี่ยวกับไข่ให้มากขึ้น,จัดนิทรรศการประกวดอาหารเมนูอาหารท้องถิ่นถูกหลักโภชนาการ,สร้างกลุ่มไลน์ถามตอบเมนูอาหารสุขภาพสำหรับเด็ก,ประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม,จัดหลักสูตรอาหารให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น,จัดอบรมให้มีการนำของที่เหลือใช้จากการทำอาหารพวกเศษอาหารไปทำเป็นปุ๋ยแล้วใส่ต้นไม้,ในวันจัดกิจกรรมสร้างความบันเทิงที่หลากหลายให้กับนักเรียน 6.โรงเรียนบ้านคลองช้างตำบลนาเกตุ ขายผลผลิตอื่นๆที่ปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ภายในโรงเรียนเช่นขายผักไข่เพื่อเป็นต้นทุน,จัดโครงการขายขยะเพื่อเพิ่มกิจกรรมและรายได้ให้กับนักเรียน,ผู้ปกครองหรือผู้ประกอบการมีส่วนร่วมในการเข้ามาร่วมขายอาหารในโรงเรียนอยู่ภายใต้เงื่อนไขของอาหารที่ถูกสุขลักษณะและมีโภชนาการที่ดี,เพิ่มการประชาสัมพันธ์กลุ่มลูกค้าในชุมชนให้ได้รับความรู้ของกิจกรรมนี้ให้มากยิ่งขึ้น,ประชาสัมพันธ์กับร้านค้ารอบโรงเรียนเพื่อดึงเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการตั้งกติกาการขายเช่นไม่ขายอาหารแปรรูป,นำวัตถุดิบที่ได้มาจากชุมชนมาแปรรูปเป็นอาหารหรือน้ำเช่นอัญชันแปรรูปข้าวยำที่ทำจากดอกอัญชันและน้ำอัญชันมะนาว ทุกพื้นที่ให้การตอบรับกับกิจกรรมเป็นอย่างดีและอยากให้กิจกรรมนี้มีต่อเนื่องไปเรื่อยๆโดยการขยายสู่ชุมชนเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่ถูกสุขลักษณะและมีประโยชน์@07 ก.ย. 67 09:45โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
อบรม Health Promotion สสส. : ถอดโมเดลการเรียนรู้หลักสูตรแนวคิดและหลักการสร้างเสริมสุขภาพ จัดโดย สถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ (ThaiHealth Academy) เมื่อวันที่ 29-30 สิงหาคม 2567 ทางแผนงานโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สนส.ม.อ. ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สรุปการขับเคลื่อนงานนโยบายสาธารณะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย Mappingกับโมเดล ThaiHealth Working Model โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วน ดังนี้ 1. การสื่อสาร รณรงค์ และสุขศึกษา - การให้ความรู้ด้านการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย - การพัฒนาศักยภาพการทำแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับพื้นที่ท้องถิ่น เป็นการขับเคลื่อนข้อมูลข่าวสารไปยังบุคคลและกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ โดยอาศัยสื่อท้องถิ่นและเครือข่ายพี่เลี้ยงในพื้นที่ ซึ่งเน้นการสื่อสารเรื่องการส่งเสริมกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ และการทำแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับพื้นที่ท้องถิ่น ***ความตระหนักรู้และพฤติกรรม - การขับเคลื่อนนโยบายและการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี การมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางกาย ทั้งในโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และชุมชน - สนับสนุนปฏิบัติการทดลองกิจกรรมนำร่อง เพื่อเพิ่มกิจกรรมทางกายของคนในชุมชน 2. ชุมชนเข้มแข็ง - คนในชุมชน/ชมรม/เครือข่ายในระดับพื้นที่ สามารถเขียนโครงการและได้รับทุนสนับสนุนการทำโครงการจากกองทุนสุขภาพตำบล และแหล่งทุนอื่นๆ ในพื้นที่ 3. เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ งานกิจกรรมทางกาย ปี 2567 สร้างความร่วมมือ กับเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ดังนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย - เครือข่ายอาสาสมัครกีฬาและผู้นำการออกกำลังกาย กระทรวงมหาดไทย - กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น - สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย - สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย - สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย - กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายสื่อ 3. นโยบายสาธารณะและการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ - ปี 2567 ขับเคลื่อนโยบายขับเคลื่อนพื้นที่สุขภาวะ - มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มติ 10.1 การส่งเสริมให้คนไทยทุกช่วงวัยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น 4. สังคมและสิ่งแวดล้อม: การออกแบบและพัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชน โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นการออกแบบทางสถาปัตยกรรมพื้นที่สาธารณะให้เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรมทางกาย 5. บริการด้านสุขภาพ, สวัสดิการ - การบูรณาการประเด็นกิจกรรมทางกายในการดูแลสุขภาพของคนในชุมชน - แผนในอนาคตการขยายกลไกการดูแลสุขภาพ เช่น นักกิจกรรมบำบัด นักกายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย แผนภาพโมเดล ThaiHealth Working Model นี้แสดงถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน ระบบกลไกต่าง ๆ ในการสร้างเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงต่อโรค NCDs โดยใช้ชุมชนเป็นฐานและการสนับสนุนเชิงนโยบาย@06 ก.ย. 67 18:55โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ถอดบทเรียนสัมภาษณ์เชิงลึกการขับเคลื่อน PA ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี : ถอดบทเรียน สัมภาษณ์บุคคลต้นแบบ หรือ “Active People” ซึ่งเป็นบุคคลที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกายและมีวิถีชีวิตที่เน้นการมีกิจกรรมทางกายอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ เป็นบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนกลไกการทำงานของโครงการให้ประสบความสำเร็จ และได้รับความร่วมมือจากบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงการ PA (Physical Activity) ซึ่งได้ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น การขับเคลื่อนในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะส่งเสริมกิจกรรมทางกายระดับจังหวัดผ่านการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดตรัง รวมถึงมีการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับท้องถิ่นที่ กระบวนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ซึ่งจะถูกนำเสนอในสารคดีถอดบทเรียนในโอกาสต่อไป@06 ก.ย. 67 17:24โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ประชุมกับ ผอ.กกท.ตรัง เรื่องการถอดบทเรียน : ถอดบทเรียนการขับเคลื่อนกิจกรรมทางกายจังหวัดตรัง@05 ก.ย. 67 14:07การดำเนินงานขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดปัตตานี
ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาข้อเสนอโครงการด้านระบบอาหารและโภชนาการสมวัยเข้าสู่กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นครั้งที่ 2 วันที่ 3 กันยายน 2567 ณโรงแรม CS ปัตตานี : โครงการทั้ง14ตำบล.....@05 ก.ย. 67 11:02กองทุนจังหวัดภูเก็ต
ประชุมเกิจกรรมผู้สูงอายุสุขภาวะดีแห่งอนาคต จังหวัดภูเก็ต ในโครงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพในระดับจังหวัด “ ภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต “ Phuket : Health for Future of Life ” : 1.ได้กำหนดการในการดำเนินกิจกรรมอบรมฯ 2.ได้รูปแบบกิจกรรมและรายชื่อวิทยากร 3.ได้เอกสารและวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินกิจกรรม 4.ได้หนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมาย วิทยากรและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง@04 ก.ย. 67 18:18โครงการขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดสงขลา
กิจกรรมเปิดป้ายจุดรวบรวมและกระจายผลผลิตอาหาร พร้อมมอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการรวบรวม และจำหน่ายผลผลิตให้แก่วิสาหกิจชุมชนคนปริก มีกิน มีใช้ (ผักอินทรีย์) : ทางผู้บริหารเทบาลตำบลปริก ได้วางแนวทางในการแก้ปัญหา โดยการแปลงหลักปรัชญาของเศษฐกิจพอเพียงสู่การ@02 ก.ย. 67 16:06กองทุนจังหวัดภูเก็ต
สรุปการประชุมคณะทำงาน โครงการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพ ในระดับจังหวัดภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต สาระสำคัญ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดภูเก็ต ด้วยหลัก 4 อ. 2 ส. : 1.ได้กำหนดการกิจกรรม 4 อ.2 ส 2.มีกลุ่มเป้าหมายแบ่งตามเขตอำเภอ 3. ได้รูปแบบการดำเนินกิจจกรรม 4.ได้เตรียมการจัดกิจกรรม@31 ส.ค. 67 14:51กองทุนจังหวัดภูเก็ต
สรุปการประชุมคณะทำงาน โครงการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพ ในระดับจังหวัดภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต สาระสำคัญ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการผู้สูงอายุ : 1.ได้วันดำเนินกิจกรรมอบรมผู้สูงอายุ กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 120 คน จัด ณ โรงแรมเพริล จังหวัดภูเก็ต วันที่ 8 กันยายน 2567 เวลา 08.30-17.30 น. 2.ได้กลุ่มเป้าหมายชัดเจน ดำเนินการจัดเตรียมหนังสือเชิญ 3.ได้รูปแบบกิจกรรมในวันอบรม มีการแบ่งกลุ่มและวิทยากร@31 ส.ค. 67 11:58การดำเนินงานขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดปัตตานี
ตลาดนัดเด็กน้อยแก้มใส โรงเรียนบ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ : ผลลัพธ์ ตลาดนัดโรงเรียนบ้านคลองช้างตำบลนาเกตุ ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนจากกิจกรรมที่จัดขึ้น เป็นกิจกรรมที่ดีได้รับความสนใจจากนักเรียนเป็นจำนวนมากจากเมื่อก่อนที่เด็กจะซื้ออาหารที่หน้าโรงเรียนซึ่งจะเป็นอาหารทั่วๆไปแต่พอมีอาหารเพื่อสุขภาพมาขายในโรงเรียนและเป็นการขายโดยเพื่อนนักเรียนด้วยกันเด็กจึงให้ความสนใจแล้วก็มาโรงเรียนเร็วขึ้นพอรู้ว่าวันไหนที่จะมีตลาดเด็กก็จะรีบมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อที่จะมากินของที่ขายในโรงเรียน ที่สำคัญคือนักเรียนได้รับประทานอาหารเช้าร้อยละ 80 คือจะเตรียมเงินมาเพื่อที่จะซื้ออาหารเช้าที่โรงเรียนในเรื่องของราคาจะอยู่ระหว่าง5-10บาท ราคาไม่แพง 20 บาทสามารถกินได้ทุกร้านแต่ละร้านเริ่มต้นที่ 5 บาทเด็กก็จะได้รับประทานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นกินทำให้เด็กอิ่มท้อง ในส่วนของผู้ปกครองเมื่อรู้ว่ามีตลาดก็มาซื้ออาหารในโรงเรียนซึ่งเขาบอกว่ามันมีความหลากหลายซึ่งร้านค้าในชุมชนไม่มีและมีรสชาตที่อร่อย หน้าตาก็น่ารับประทานมีผู้ปกครองหลายคนนำปิ่นโตมาซื้อก็มี ปัญหาที่เกิดขึ้นกับชุมชน อย่างเช่นวันไหนที่ทางโรงเรียนมีตลาดบางร้านค้าบริเวณหน้าโรงเรียนก็จะขายของไม่ได้เลยซึ่งแนวทางการแก้ไขของทางโรงเรียนก็จะเป็นโครงการต่อไปก็คือคุยและประชาสัมพันธ์กับร้านค้ารอบโรงเรียนซึ่งอาจจะดึงมาเข้าร่วมโครงการโดยการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารที่มีประโยชน์มีคุณภาพหากทางร้านค้าเข้าร่วมก็จะเป็นการดีอย่างยิ่งเพราะเด็กก็จะได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตลอดไปทุกวันและทางร้านค้าก็ไม่เสียผลประโยชน์ด้วย กิจกรรมในครั้งนี้ได้คุยกับทางคุณครูผู้รับผิดชอบว่าอย่างน้อยควรจะมีสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อที่จะให้เด็กได้มีเมนูที่หลากหลายและมีประโยชน์รับประทานต่อไปเพื่อที่จะให้ร้านค้าข้างนอกได้เห็นว่าอาหารแบบนี้ถ้าทำเด็กชอบเด็กรับประทานเขาก็จะได้เอาไปปรับปรุงกับเมนูที่เขามีขายอยู่แล้วหรือคิดเมนูขึ้นมาใหม่รวมถึงคนในชุมชนก็จะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ด้วยจากร้านค้าในชุมชมเอง อีกประการหนึ่งที่เด็กจะได้ก็คือให้เด็กได้ฝึกเรื่องการค้าขายเรื่องการคำนวณต้นทุนรายรับรายจ่ายปริมาณอาหารที่นำมาขายแต่ละวันเด็กได้ฝึกทักษะเพิ่มมากขึ้น ก่อนหน้าที่จะมีโครงการนี้เกิดขึ้นโดยปกติแล้วเด็กจะไม่ค่อยได้รับประทานอาหารมาจากบ้านหรือไม่ก็เป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์เช่นของกินง่ายๆขนมซองมาม่าเนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่ไปทำงานกรีดยางตอนเช้าก็จะไม่มีเวลาหาอาหารหาข้าวให้เด็กกินตอนเช้าก็จะใช้วิธีวางเงินไว้ให้กับลูกมาหาซื้อของกินหน้าโรงเรียนแทนพอมีกิจกรรมนี้ผู้ปกครองก็ชอบมากแล้วก็ให้ความร่วมมือ และเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ดีควรทำต่อเนื่อง เมนูที่นักเรียนชอบ 50% ก็คือข้าวต้มหลังจากนั้นก็ทยอยไปซื้ออย่างอื่น ความคิดเห็นจากนายอัสมี เจ๊ะอ๊ะ ประธานคณะกรรมการการศึกษา อยากให้มีการขยายผลให้ทำจริงจังในเรื่องของการส่งเสริมด้านอาชีพของเด็กที่ชอบในด้านของการค้าขายและมีความหลากหลายของอาหารและดีใจที่ได้เห็นศักยภาพของเด็กที่นอกจากจะอยู่ในห้องเรียนแล้วเขายังยังสามารถมีศักยภาพด้านอื่นนอกห้องเรียนที่นำมาใช้ได้จริงจึงอยากให้สนับสนุนเด็กในส่วนนี้อย่างจริงจัง การที่มีตลาดในโรงเรียนมีข้อดีหลายอย่างหรือเรื่องความปลอดภัยเด็กก็ไม่ต้องวิ่งข้ามถนนไปซื้อของแล้วก็เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจกันของเด็กในการช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือทั้งผู้หญิงผู้ชายรวมถึงการแบ่งหน้าที่กันทำงาน สิ่งที่อยากให้มีการพัฒนาคือเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่ใส่อาหารให้มันมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอย่างเช่นโฟมก็ต้องให้เลิกใช้ไปเลยให้มันมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นรวมถึงหัวใจของการบริการด้วยหากเด็กได้เรียนรู้ไปตรงนี้เขาจะได้รู้ว่าการที่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าเราต้องบริการลูกค้ายังไงพูดจายังไงยิ้มแย้มแจ่มใสจะได้ฝึกเขาไปในตัวเรื่องการตกแต่งร้านอาหารต้องน่ากินสะอาดอันนี้เราต้องให้ความรู้เขาด้วยแต่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีมากๆแล้วรู้สึกว่าเด็กทุกคนทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าก็มีความสุขกับกิจกรรมตรงนี้รวมถึงคุณครูและผู้ปกครองด้วย ในส่วนของโรงเรียนตอนนี้ก็มีการนำพื้นที่มาทำแปลงผักเล้าไก่บ่อเลี้ยงปลา ซึ่งขณะนี่ได้มีการดำเนินการปลูกผักบางชนิด เช่นผักบุ้ง ผักคะน้า มันญี่ปุ่นแล้วก็กำลังรอไก่เลี้ยงเพื่อเอาไข่มาใช้ในการประกอบอาหารในมื้อเที่ยงของโรงเรียน เป็นการให้เด็กได้เรียนรู้กันปลูกผักสวนครัวด้วยเผื่อจะได้เป็นอาชีพของเขาต่อไป ให้เขาได้รู้ถึงประโยชน์ของดิน ทำดินให้มีชีวิตทำดินให้มีประโยชน์ไม่ให้มันเป็นพื้นที่ว่างทำให้มันกินได้ทั้งในโรงเรียนแล้วก็ในบ้านของตัวเอง ความรู้สึกของคุณครูที่ทำกิจกรรมครั้งนี้ ความรู้สึกแรกที่ได้รับโครงการนี้ตอนแรกก็ไม่ค่อยอยากจะรับเพราะอาจจะมีปัญหากับเรื่องของเวลาของเด็กนักเรียนแล้วก็ของตัวครูเองแต่เมื่อเห็นรูปแบบของโครงการแล้วจึงเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีก็เลยให้ความร่วมมือโดยโดยการประสานกับทางผู้ปกครองด้วยเพราะว่ามีบางอย่างที่เด็กทำไม่ได้ก็จะให้ผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในการช่วยให้ความรู้กับเด็กในแต่ละขั้นตอนของการทำอาหาร กิจกรรมครั้งนี้มีประโยชน์หลายอย่างนักเรียนได้บูรณาการกับวิชาคณิตศาสตร์ได้มีการคำนวณมีการคิดเลขการซื้อขายการทอนเงิน และเด็กๆก็มีความสุขที่ได้ทำกิจกรรมในครั้งนี้ ความรู้สึกของนักเรียนที่ได้มาทำกิจกรรมในครั้งนี้ -รู้สึกดีใจชอบทำอาหารอยู่บ้านปกติก็ทำกับข้าวอยู่แล้ว -อยากให้มีตลาดขายทุกวัน -รู้สึกชอบที่มีกิจกรรมแบบนี้เพราะบางคนที่ไม่ได้กินอาหารมาจากบ้านก็จะได้มีอาหารที่มีประโยชน์กินที่โรงเรียนและที่มีราคาที่ไม่แพงด้วย -ปกติก่อนที่จะมีตลาดก็จะมากินข้าวที่ข้างหน้าโรงเรียนแต่พอมีตลาดในโรงเรียนมีอาหารหลากหลายก็จะสลับกินกันกับของที่เพื่อนขายรู้สึกมีความสุขที่มีโครงการนี้ -ต่อไปจะคิดเมนูเพิ่มขึ้นเช่นข้าวผัดเพื่อให้มีอาหารที่หลากหลายมาขายให้เพื่อนๆในโรงเรียน เมนูที่ทำขายในวันนี้ -เมนูแซนวิสไข่ดาว เป็นเมนูที่มีประโยชน์มีแผ่นขนมปังซอสไข่ผักเป็นเมนูที่กินง่ายและคนชอบกิน -เมนูขนมปังปิ้ง/หมี่ผัด สลับกันแต่ละรอบ ปังปิ้งเป็นเมนูที่ทำง่ายมีส่วนผสมที่น้อยจะได้ใช้เวลาสั้นๆในการทำก็จะมีเป็นไส้ช็อกโกแลตไส้สตอเบอรี่และบูลเบอรี่ -เมนูข้าวยำ/ข้าวหมก จะสลับกันแต่ละรอบ เป็นเมนูที่กินง่ายมีประโยชน์และคุ้นเคยอยู่แล้ว -เมนูข้าวต้ม เป็นเมนูที่ทำง่ายเพื่อนๆในโรงเรียนชอบกิน -น้ำไมโล/น้ำสัปปะรด แนวทางของทางการของการจัดกิจกรรมในครั้งต่อไปก็คือจะทำทุกสัปดาห์แต่อาจจะเหลือแค่ 2 หรือ 3 ร้านและเปลี่ยนเมนูเพื่อสร้างความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ในส่วนของรพ.สต มีความเห็นว่าหากต่อไปมีการร่วมมือการระหว่างผู้ปกครองกับชุมชนในการทำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพขายนักเรียนก็จะเป็นการดีเพราะมันเป็นความยั่งยืนของนักเรียนในมื้อเช้าของทุกวันเพราะถ้านักเรียนขายอาจจะได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งแต่ถ้าเป็นผู้ปกครองหรือเป็นคนในชุมชนขายเอง โดยที่อยู่ในเงื่อนไขของอาหารที่มีคุณภาพที่ถูกสุขลักษณะและถูกตามหลักโภชนาการแล้วเด็กหรือคนในชุมชนก็จะได้กินอาหารเช้าที่มีประโยชน์และหลากหลายได้ในทุกๆวัน อีกส่วนหนึ่งมีความเห็นว่าเนื่องจากเป็นโครงการที่ดีอยากจะขยายกิจกรรมแบบนี้ไปที่โรงเรียนอื่นๆด้วยให้ทำกิจกรรมแบบเดียวกันซึ่งทำให้เด็กในพื้นที่ทั้งหมดเนี่ยมีโอกาสได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีประโยชน์มากยิ่งขึ้นอย่างน้อยก็เป็นการให้ความรู้กับผู้ปกครองคนในชุมชนผู้ที่ดูแลเด็กได้เห็นถึงความสำคัญของอาหารเช้าและอาหารในทุกๆมื้อของเด็กมากยิ่งขึ้น@30 ส.ค. 67 13:07การดำเนินงานขับเคลื่อนและยกระดับระบบอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ในจังหวัดปัตตานี
ตลาดนัดเด็กน้อยแก้มใสโรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี : ตลาดอาหารสุขภาพโรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ วันที่ 28 สิงหาคม 2567 - กล่าวรายงานเปิดโครงการโดย นางมารีนี ใบเย็มหมะ ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ - กล่าวเปิดพิธีโดย นายปรีชา กาฬแก้ว ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งพลา - กล่าวต้อนรับโดย ผุ้อำนวยการโรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ - เยี่ยมชมบูธทั้ง 5 บูธ พร้อมอุดหนุนอาหารของนักเรียน - สัมภาษณ์นักเรียน - สัมภาษณ์คณะทำงาน โดยมีภาคีเครือข่ายและผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมเปิดตลาดนัดในวันดังกล่าว และมีการจัดตั้งบูธอาหารของแต่ละกลุ่ม ซึ่งกิจกรรมในวันดังกล่าวผ่านไปด้วยดี -ความคิดเห็นของผอ.โรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวดวัดช้างให้กับโครงการตลาดนัดอาหารของเด็กๆในครั้งนี้ผอ.เห็นว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ดีทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและเห็นด้วยไม่ว่าจะเป็นนักเรียนผู้ปกครองหรือชุมชนเพราะทางโรงเรียนได้มีการลง facebook ป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายติดรถรับส่งนักเรียน ในกิจกรรมครั้งนี้ทำให้ผู้ปกครองได้เข้ามามีส่วนร่วมและเห็นถึงความสำคัญของอาหารของเด็กๆมากยิ่งขึ้นและกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลังจากที่โรงเรียนไม่ได้มีกิจกรรมประเภทนี้มาสักพักหนึ่ง มีความรู้สึกภูมิใจและเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้นอาหารบางประเภทเด็กยังไม่เคยทานเช่นแซนวิชหรือว่าผักบางประเภทพอดได้ทานแล้วเขาก็รู้สึกชอบทำให้มีความเห็นว่ากิจกรรมแบบนี้จะเป็นการสร้างความยั่งยืนในเรื่องของการรับประทานอาหารของเด็กได้เด็กบางคนก็จะเลือกรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น และจะทำให้เป็นนโยบายของทางโรงเรียนเช่นทุกวัน(ระบุวันตามความเหมาะสม)จะมีตลาดอาหารเชิญชวนมาร่วมกิจกรรมตรงนี้ได้ทั้งผู้ปกครองและบุคคลบริเวณภายในชุมชน และสามารถเป็นการทำงานร่วมกันได้กับของโหนดปัตตานีเพราะได้มีการทำแปลงผักปลูกผักภายในโรงเรียนจะได้นำมาใช้ในการปรุงอาหารในมื้อในกลางวันของทางโรงเรียนด้วยทางโรงเรียนก็อยากเปิดตลาดของโรงเรียนโดยให้ทางผู้ปกครองมามีส่วนร่วมอาจจะเป็นพืชผักสวนครัวที่ผู้ปกครองเป็นคนปลูกอยู่ที่โรงเรียนแล้วนำมาขายภายในโรงเรียนให้ทุกคนได้มีผักที่ปลอดภัยรับประทานกัน ปกติทางโรงเรียนจะมีแม่ครัวมาทำอาหารเช้าขายภายในโรงเรียนอยู่แล้วแต่หากมีโครงการแบบนี้ก็อาจจะต้องจัดเป็นกลุ่มของเด็กในการเพิ่มเมนูอาหารเช้าเด็กจะได้มีตัวเลือกในการรับประทานอาหารเช้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น กิจกรรมตลาดนัดอาหารของเด็กในครั้งนี้เป็นการตอบโจทย์อย่างมากเพราะจะมีเด็กบางส่วนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาจากที่บ้านแล้วพอมาถึงโรงเรียนก็ซื้อขนมข้างนอกมากินถ้าเรามีแบบนี้เด็กก็จะมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้นบางเด็กบางคนอาจจะไม่อยากกินข้าวผัดหรือของที่ทางแม่ครัวทำเพราะบางทีก็เป็นเมนูที่เดิมๆการมีเมนูแบบนี้ทำให้เด็กมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้นแล้วก็เขาก็รู้สึกว่ามันอร่อยมันแตกต่างจากที่เขาเคยกิน อย่างเช่นผักทอดเด็กบางคนจะไม่รู้เลยว่าผักชนิดนี้สามารถเอามาทำเป็นอาหารได้หรือดอกไม้ก็สามารถเอามาทำเป็นอาหารได้เมื่อลองให้ทำกินกันเองเด็กก็รู้สึกว่า"มันอร่อยมันกินได้เหรอเออเดี๋ยวผมจะเอาผักที่บ้านมาลงทอดบ้าง" บางคนก็กลับไปเอาใบบัวบกที่ตัวเองคิดว่ามันกินได้แต่กับน้ำพริกก็ลองเอามาทอดทำให้กินง่ายขึ้นซึ่งปกติเด็กก็อาจจะไม่กินบ้านของเด็กนักเรียนบางคนก็มีการปลูกผักสวนครัวอยู่แล้วอย่างเช่นฟักทองถั่วฝักยาวผักบุ้งเมื่อเด็กได้มีการเรียนรู้เรื่องอาหารภายในครัวเรือนหรือว่าผลผลิตภายในครัวเรือนที่เราปลูกแล้วนำมาสามารถกินได้เลยเด็กก็จะอยากที่จะใช้ของที่อยู่ภายในบ้านของตัวเองมาปรุงอาหารมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปซื้อในตลาด และกิจกรรมครั้งนี้ก็ทำให้เห็นถึงความสามัคคีแล้วก็การร่วมมือร่วมใจกันของนักเรียนไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงเด็กผู้ชายตัวเล็กเด็กโตเด็กเล็กมีความร่วมมือกันหมดทุกคนช่วยกันทำให้เห็นว่ากิจกรรมบางกิจกรรมก็สามารถทำให้เห็นถึงการพัฒนาการทางอารมณ์ของเขาได้ด้วย ในการเลือกเมนูมาทำอาหารนั้นทางรพ. สตได้มีการติดต่อไปทางอาจารย์ที่มีความชำนาญด้านอาหารโดยตรงและตั้งโจทย์ไปให้ว่าในเมนูนั้นจะต้องมีอาหารครบทั้ง 5 หมู่สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่เพื่อที่จะให้เด็กกินแล้วมีประโยชน์กับร่างกายของเขาอย่างเต็มที่และต้องเป็นวัตถุดิบที่เด็กสามารถกินได้ด้วย สิ่งหนึ่งที่ได้จากกิจกรรมครั้งนี้คือการที่ผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในการทำอาหารและคิดเมนูกับเด็กทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ภายในครอบครัว โดยปกติโรงเรียนหากมีการทำกิจกรรมใดๆก็จะเชิญผู้ปกครองมาร่วมทุกกิจกรรมอยู่แล้วซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองเด็กและครูได้มากยิ่งขึ้น และอาจเป็นแนวทางเสริมอาชีพให้กับผู้ปกครองและครอบครัวของเด็กได้ด้วย เด็กๆหลายคนมีความคิดที่จะทำเมนูใหม่ๆขึ้นมาโดยใช้วัตถุดิบหรืออาหารท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้มันน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นเช่นเมนูข้าวยำไข่ม้วน เด็กได้เสริมทักษะในชีวิตเพิ่มมากขึ้นทั้งความคิดสร้างสรรค์ การคำนวณค่าใช้จ่ายหรือคำนวณปริมาณอาหารเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ส่งเสริมเด็กได้ดีมาก การเลือกเมนูอาหารใช้ไอเดียเซเว่นก็คือรวดเร็วหน้าตาน่ากินและเด็กชอบกินแต่ใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบและมีประโยชน์ เช่นเด็กชอบกินขนมซองเราก็จะทำยังไงให้ผักมีลักษณะใกล้เคียงกันซึ่งพอทำมาเป็นผักทอดเด็กก็ชอบมาก ในส่วนของคุณครูที่รับผิดชอบโครงการมีความรู้สึกดีใจและประทับใจเป็นอย่างมากที่มีโครงการแบบนี้ช่วงแรกอาจจะรู้สึกมีความกังวลว่ากิจกรรมจะไปได้ไหมจะทำได้ไหมแต่เมื่อกระจายงานไปแล้วคุณครูทุกคนในโรงเรียนให้ความร่วมมือจึงมีกำลังใจที่จะทำงานและอยากให้มีกิจกรรมแบบนี้ไปเรื่อยๆเพราะเห็นผลดีที่เกิดขึ้นกับเด็กโดยตรงอยากให้เป็นโครงการที่ยั่งยืนต่อเนื่องไปตลอด ในส่วนของการปรับปรุงในครั้งต่อไปจะเปลี่ยนตัววัตถุดิบเช่นพวกไส้กรอกหรือปูอัดเปลี่ยนเป็นใช้ปลาหรือใช้เนื้อสัตว์ที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้มากยิ่งขึ้นเพราะเด็กจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจริงๆ และในส่วนของซุ้มอาหารก็อาจจะลดปริมาณลงอาจจะเหลือ 2-3 ซุ้ม เพื่อที่จะให้ผู้ขายเปลี่ยนเป็นผู้ซื้อบ้าง เด็กก็จะไม่เหนื่อยเกินไปรวมถึงคุณครูด้วยจัดกลุ่มสลับกันไปในแต่ละสัปดาห์ตามที่ทางโรงเรียนกำหนด ในส่วนของนักเรียนที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมโครงการ -ซูซิโร รู้สึกว่าอาหารที่ตัวเองทำมีประโยชน์หากทำแบบนี้ทุกวันก็จะดี 1 ชิ้นก็ได้ปริมาณสารอาหารที่ครบถ้วน ดีใจที่เพื่อนๆที่มาซื้อแซนวิชก็บอกว่าอร่อยแล้วก็ชอบ -เกี๊ยวห่มผ้า ไก่ ไข่ แครอท ต้นหอม พริกไทย กระเทียม เครื่องปรุง ที่เลือกเมนูนี้เพราะรู้สึกว่ามันน่ากินและทำได้ไม่ยากกินแล้วก็อิ่มท้องและมีความอร่อยด้วย อยากทำแบบนี้ทุกครั้งเพราะสนุกด้วยแล้วก็ได้กินอาหารที่หลากหลาย -แซนวิส ขนมปัง ไข่กุ้ง ไข่ สาหร่าย มายองเนส เป็นเมนูที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะมีปริมาณที่เยอะและอิ่มพอดีแต่ครั้งหน้าจะเปลี่ยนจากไข่กุ้งเป็นเนื้อปลาหรือเนื้อไก่ -ผักทอด เมนูผักทอดเป็นเมนูที่ชอบเพราะผักสามารถหาได้ทั่วไปโดยที่ไม่ต้องซื้อทั้งผักริมรั้วและผักที่ปลูกเป็นผักสวนครัวรวมถึงดอกไม้ก็สามารถนำมาทอดได้แล้วก็ทดแทนพวกขนมถุงซองได้เป็นอย่างดี ผักที่เอามาทอดวันนี้คือ ตำลึง เห็ดเข็มทอง ฝักทอง ข้าวโพดอ่อน ดอกเฟื่องฟ้า ดอกอัญชัญ ผักบุ้ง มันฝรั่ง -ไข่ตุ่น เป็นเมนูที่ทำง่ายและอร่อยสามารถกินได้ทุกวัยโดยปกติแล้วชอบที่จะทำเมนูนี้อยู่แล้วเลยเลือกที่ทำเมนูนี้ขาย ความรู้สึกจากตัวแทนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ อยากขอบคุณที่มีโครงการแบบนี้เกิดขึ้นเพราะทำให้เพื่อนๆน้องๆในโรงเรียนได้มีอาหารที่หลากหลายแล้วก็อร่อยเพิ่มมากขึ้นอยากให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในส่วนของผู้ปกครองรู้สึกประทับใจที่มีโครงการนี้เห็นลูกๆหลานๆได้ทำกิจกรรมและมีความสุขกับกิจกรรมที่ทำทำให้เห็นถึงศักยภาพของลูกหลานตัวเองว่าจากปกติอยู่บ้านอาจจะไม่เคยทำแต่พอมีกิจกรรมนี้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันทำให้ผู้ปกครองรู้สึกมีความสุขไปด้วยโดยปกติผู้ปกครองจะมามีส่วนร่วมในกิจกรรมของทางโรงเรียนอยู่บ่อยๆแต่ยังไม่เคยมีกิจกรรมที่เด็กๆทำอาหารมาแลกเปลี่ยนหรือขายกันแบบนี้หากมีการจัดกิจกรรมแบบนี้ต่อไปก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี@30 ส.ค. 67 12:06กองทุนจังหวัดภูเก็ต
สรุปการประชุมคณะทำงาน โครงการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางมนุษย์และสุขภาพ ในระดับจังหวัดภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต สาระสำคัญ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดภูเก็ต ด้วยหลัก 4 อ. 2 ส. : 1.ได้กำหนดวันจัดกิจกรรมวันจันทร์ ที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 08.30 น. – 17.00 น. ณ โรงแรมเดอะพาโก ดีไซน์ ภูเก็ต อำเภอเมือง จงหวัดภูเก็ต 2.ประสานกับประธานกลุ่มเป้าหมาย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดภูเก็ต 3.ได้รูปแบบการจัดกิจกรรม@28 ส.ค. 67 17:49ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมวางแผนงานสื่อสารประเด็นความมั่นคงทางสุขภาพร่วมกับทีมสื่อจังหวัดภูเก็ต : *@27 ส.ค. 67 09:33ศาลาด่านโมเดล
ประชุมวางแผนจัดตั้งกลุ่มกลไกระดับอำเภอขับเคลื่อนงานลันตายั่งยืน ตามแนวปฏิญญาอ่าวลันตา จังหวัดกระบี่ : *@27 ส.ค. 67 09:25กองทุนสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
ประชุมงานกลไกบูรณาการความร่วมมือกองทุนจังหวัดภูเก็ต : *@27 ส.ค. 67 09:17ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมทีมติดตามประเมินผลโครงการพัฒนาระบบและกลไกการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ออกแบบกรอบแนวคิดการประเมิน : *@27 ส.ค. 67 09:08ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2567
ประชุมเชิงปฏิบัติการ บูรณาการความร่วมมือและขับเคลื่อนระบบอาหารตลอดห่วงโซ่ในพื้นที่ปฏิบัติการระดับจังหวัด : *@26 ส.ค. 67 16:33ศาลาด่านโมเดล
ประชุมพิจารณากรอบการจัดทำข้อมูลกลไกอำเภอเกาะลันตา และการสื่อสารประเด็นทรัพยากรธรรมชาติ : *@26 ส.ค. 67 16:17
เอกสารประกอบการประชุม
- 2024-09-26 ประชุมคณะกรรมการประจำสถาบัน @26 ก.ย. 67 14:51 | 19 views
- 2024-09-16 เวที Policy Forum เพื่อสื่อสารข้อเสนอเชิงนโยบายด้านระบบอาหาร @20 ก.ย. 67 15:51 | 73 views
- การประชุมแนวทางการพัฒนาต้นแบบการจัดการระบบอาหารตลอดห่วงโซ่เพื>อ แก้ปัญหาภาวะโภชนาการระดับชุมชน จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส วันที. 27 ธันวาคม 2566 @27 ธ.ค. 66 09:00 | 229 views
- ห้องย่อยช่วงบ่าย "การประชุมติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนแผนงานในโครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ (ศวนส.)" 4 มีนาคม 2566 @3 มี.ค. 66 18:06 | 497 views
- เอกสารประกอบการอบรมการเก็บข้อมูลแบบสอบถามประเด็นสุขภาพ 13 เขต วันที่ 11 มกราคม 2566 @11 ม.ค. 66 14:13 | 555 views
- กำหนดการ(ห้อง Zoom ย่อย)ประชุมเชิงปฏิบัติการทำแผนขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายภาคใต้แห่งความสุข ระหว่างวันที่ 24 – 25 ธันวาคม 2565 @23 ธ.ค. 65 14:09 | 444 views