ข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
ข้อมูลประเด็นปัญหา
การใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตด้านการเกษตรข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
การผลิตทางการเกษตรที่หลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมีการพัฒนาเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง เป็นกรอบคิดและเครื่องมือที่สถาบันปฏิบัติการชุมชนเพื่อการศึกษาแบบบูรณาการ นำมาใช้เพื่อพัฒนาระบบการผลิตทางการเกษตรในชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน เนื่องจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ เป็นวิธีการผลิตทางการเกษตรที่หลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นระบบการผลิตที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ ได้แก่ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน เกษตรอินทรีย์จึงสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ป่า ทำให้เกษตรกรปลอดภัยจากพิษของสารเคมี ลดต้นทุนการผลิต และส่งผลดีต่อสุขภาพผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม เป็นระบบที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เกษตรกรยืนอยู่บนหลักเหตุและผล มีการบริหารจัดการที่มีภูมิคุ้มกันตามหลักความพอเพียง
แนวคิดนี้ได้พัฒนาต่อเนื่องจากการดำเนินงานของสถาบันฯ ในระยะที่ 1 ( 2550-2555) ซึ่งเป็นการปรับกระบวนทัศน์การทำสวนยางพาราเชิงเดี่ยวสู่การทำเกษตรผสมผสาน ทำให้ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจการอยู่ร่วมกันของคน ป่า ดิน และน้ำ มีความตระหนักว่าการทำการเกษตรในระบบเสรีนิยม ที่ต้องพึ่งพาสารเคมี และปุ๋ยเคมี จะไม่ส่งผลดีในอนาคต จนดำเนินการมาถึงในระยะที่ 2 (2556-ปัจจุบัน) มีการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรในชุมชนทำเกษตรอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์จึงถือได้ว่าเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญในการขับเคลื่อนระบบเกษตรอินทรีย์ให้ประสบความสำเร็จ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สถาบันฯ ได้นำองค์ความรู้จากงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรปุ๋ยอินทรีย์โดยเริ่มจากการคัดเลือกจุลินทรีย์ในท้องถิ่นมาใช้เป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์และพัฒนาปุ๋ยอินทรีย์สูตรต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ชุมชนสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เอง ผลปรากฏว่าทุกชุมชนยอมรับคุณภาพของปุ๋ยอินทรีย์ที่พัฒนาสูตรโดยสถาบันปฏิบัติการชุมชนฯ จึงได้มีการพัฒนากลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์ในกลุ่มเครือข่ายผลิตพืชอินทรีย์ที่สถาบันฯขับเคลื่อนเพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็งและสามารถใช้เป็นฐานการเรียนรู้ให้นิสิต ประกอบด้วย 5 อำเภอในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ได้แก่ 1) กลุ่มผลิตข้าวอินทรีย์และกลุ่มผลิตผักอินทรีย์ชุมชนตะโหมด อำเภอตะโหมด 2) กลุ่มผลิตผักอินทรีย์ชุมชนบ้านทุ่งยาว อำเภอเขาชัยสน 3) กลุ่มผลิตข้าวอินทรีย์และกลุ่มผลิตเห็ดอินทรีย์ชุมชนดอนประดู่ อำเภอปากพะยูน 4) กลุ่มผลิตข้าวอินทรีย์ชุมชนโตนดด้วน อำเภอควนขนุน และ 5) กลุ่มการทำเกษตรผสมผสานระบบอินทรีย์ชุมชนบ้านพร้าว อำเภอป่าพะยอม ผลจากการดำเนินการจะเห็นได้ว่าเกษตรกรในชุมชนได้เห็นความสำคัญและกลับมาทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณภาพของปุ๋ยอินทรีย์เป็นที่ยอมรับและต้องการของสมาชิกกลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ที่มีจำนวนมากกว่า 100 ครัวเรือน จากการสำรวจการดำเนินงานของกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ทั้ง 5 กลุ่ม พบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ไม่นิยมผลิตปุ๋ยอินทรีย์ แต่มีความต้องการซื้อปุ๋ยอินทรีย์มาใช้แทนปุ๋ยเคมี กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์จึงประสบปัญหาไม่สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้เพียงพอต่อความต้องการได้ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้มาตรฐานและเพียงพอต่อความต้องการของสมาชิกในชุมชนและขยายผลไปสู่ชุมชนอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนากระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การบริหารจัดการกลุ่ม และการวางแผนธุรกิจ เพื่อยกระดับกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์สู่วิสาหกิจชุมชนให้สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อการค้า และส่งเสริมให้ชุมชนทำเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียงต่อไป