ข้อมูลพื้นฐาน
ตำบลนาเกตุตั้งอยู่ในพื้นที อำเภอโคกโพธิ์. จังหวัดปัตตานี มประกอบด้วยจำนวน 7 หมู่บ้าน จำนวนประชากร 7,365 คน (ข้อมูล ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖1) มีสมาชิกจำนวน 1,729 ครัวเรือน สมาชิกในชุมชนนับถือศาสนา ลักษณะชุมชน เป็นพหุวัฒนธรรม อยู่ร่วมกันทั้ง ไทยพุทธและไทยมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม 68.47 % ศาสนาพุทธ 31.53 มีรายได้เฉลี่ย 15,000 – 30,000.-บาท ต่อคนต่อปี รายได้เฉลี่ยครัวเรือน 36,000.บาท/ต่อครัวเรือน ต่อปีข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
มีการจัดตั้งกลุ่มและดำเนินกิจกรรม แต่ขาดความต่อเนื่องในการบริหารจัดการกลุ่มข้อมูลประเด็นปัญหา
พัฒนากลุ่มที่อ่อนแอ เช่น กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ กลุ่มผุ้ป่วยทุพพลภาพ ผู้พิการข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
1. ความต่อเนื่องของกิจกรรมที่ดำเนินการ
2. กิจกรรมส่งเสริมอาชีพ
3. ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต
4. ความรู้หรือนวัตกรรมด้านการส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยและผู้สูงอายุ1) เทคโนโลยีด้านการออกกำลังกายสำหรับผุ้สูงอายุ หรือผู้ป่วยทุพพลภาพ
2) การเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบในชุมชน
3) เกษตรอินทรีย์ชีวภาพจากวัตถุดิบในชุมชนตำบลนาเกตุตั้งอยู่ในพื้นที อำเภอโคกโพธิ์. จังหวัดปัตตานี มประกอบด้วยจำนวน 7 หมู่บ้าน จำนวนประชากร 7,365 คน (ข้อมูล ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖1) มีสมาชิกจำนวน 1,729 ครัวเรือน สมาชิกในชุมชนนับถือศาสนา ลักษณะชุมชน เป็นพหุวัฒนธรรม อยู่ร่วมกันทั้ง ไทยพุทธและไทยมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม 68.47 % ศาสนาพุทธ 31.53 มีรายได้เฉลี่ย 15,000 – 30,000.-บาท ต่อคนต่อปี รายได้เฉลี่ยครัวเรือน 36,000.บาท/ต่อครัวเรือน ต่อปี ประชากรประกอบอาชีพทำสวนยางพารา เกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพหลัก ลักษณะของชุมชนจะอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มตามเส้นทางคมนาคม แนวโน้มการขยายตัวของชุมชน ยังคงกระจายอยู่ในรอบ ๆ ชุมชนเดิม ปัจจุบันกิจกรรมทีกลุ่มได้ดำเนินการโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากองค์การบริหารส่วนตำบลนาเกตุ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เช่น กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน กิจกรรมชมรมผู้สูงอายุ กิจกรรมการดูแลผู้ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ (ผู้พิกาล) กิจกรรมด้านการเกษตรชุมชนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง แต่จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวยังคงขาดความต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนั้นหากได้ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ หาความต้องการร่วมกันระหว่าง ตัวแทนชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลนาเกตุ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประชาตำบล และนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ร่วมศึกษาเรียนรู้ และนักวิชาการจากสำนักส่งเสริมและการศึกษาต่อเนื่อง ร่วมกันขับเคลื่อน รวมพลังในการปฏิบัติงานในเชิงพื้นที่ นำองค์ความรู้ หรือนวัตถกรรมจากมหาวิทยาลัยถ่ายทอดสู่ชุมชน ในการบูรณาการถ่ายทอดความรู้ ทั้งด้านทฤฏีและปฏิบัติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ชุมชนเข้มแข็ง เตรียมพร้อมให้คนในสังคม รับผลกระทบ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมและเศรษฐกิจโลก สามารถพัฒนาตนเอง สังคม ส่งผลให้เกิดการเสริมสร้างพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนนำไปสู่เป้าหมายของการบริหารจัดการชุมชนตามแนวทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืน
นำเข้าสู่ระบบโดย
chonticha เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 13:46 น.