ข้อมูลพื้นฐาน
การสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy) และสร้างความสมดุลในการพัฒนาเศรษฐกิจจากภายในสู่ภายนอก (Local to Global) อันจะส่งผลต่อการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ให้แก่ประเทศในระยะยาว การผลิตสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) ในชุมชน หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด ถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ที่จะต้องได้รับการส่งเสริมเพื่อเชื่อมโยงตั้งแต่การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการ การใช้เทคโนโลยี และการพัฒนานวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมทั้ง การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ จนสามารถนำไปสู่การสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเพิ่มการลงทุนในประเทศ และผลักดันรายเดิมให้มีศักยภาพและสามารถขยายการค้าการลงทุนจากตลาดท้องถิ่น ไปสู่ตลาดอาเซียนและตลาดโลกได้ในที่สุดข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
จังหวัดสกลนคร ได้ดำเนินการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 5 ชนิดสินค้า ได้แก่ 1) ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร 2) ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี 3) หมากเม่าสกลนคร 4) น้ำหมากเม่าสกลนคร 5) เนื้อโคขุนโพนยางคำ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตตลักษณ์โดดเด่นที่มีชื่อเสียงและสร้างรายได้ให้กับจังหวัดสกลนคร ปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่รู้จักของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างแรงกระตุ้นเชิงอัตลักษณ์ของจังหวัด ให้เกิดความต้องการสินค้าและเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งในและต่างประเทศข้อมูลประเด็นปัญหา
สถานการณ์การแข่งขันทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการของจังหวัดสกลนคร โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ SMEs / OTOP การพาณิชย์เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของจังหวัด การค้าเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดเป็นมูลค่ามาก ซึ่งนับวันมีความสำคัญมากขึ้น การยกระดับการค้ามีความจำเป็นที่ต้องหาตลาดใหม่ โดยใช้โอกาสการขยายตลาดหรือตัวแทนทางการค้า (Trader) ไปสู่ตลาดต่างประเทศ ถ้าหากการตลาดมียอดขายที่ลดลงหรือการค้าถดถอยไปเรื่อยๆ ผู้ประกอบการก็ไม่สามารถอยู่รอดในการแข่งขันกับตลาดที่มีการแข่งขันในขณะนี้ และจะค่อยๆ หยุดกิจการไป ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในจังหวัด ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์รวมมวลจังหวัดลดลงตามด้วย
สกลนครเป็นจังหวัดที่มากด้วยแหล่งทางศิลปวัฒนธรรมและเป็นศูนย์รวมแหล่งความรู้ทางพระพุทธศาสนา จังหวัดสกลนครจึงมีศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผสมผสานกับคำสอนทางพุทธศาสนาได้อย่างลงตัว รวมถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตทางสิ่งทอพื้นบ้านของคนในจังหวัดสกลนคร หนึ่งในสิ่งทอพื้นบ้านที่มีความงดงามและมีประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัดสกลนคร ผ้าไหมย้อมคราม โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงอุปถัมภ์กิจกรรมของโครงการศิลปาชีพในจังหวัดสกลนครโดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูเรื่องของภูมิปัญญาในการผลิตผ้าไหมและผ้าไทยต่าง ๆ ให้ดำรงคงอยู่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในกระบวนการผลิตและการจำหน่ายผ้าไหมส่วนใหญ่เป็นการออกแบบและผลิตจากทักษะความชำนาญ และความรู้ความเข้าใจที่สืบทอดกันมา ขาดความเข้าใจตลาด ขาดการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่เหมาะสม ทำให้สินค้าจำนวนมากมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมแก่การใช้งาน ขาดความคงทน มีความสูญเปล่าทางวัสดุ แรงงาน ทำให้มีต้นทุนสูง อุปทานการผลิตมากกว่าอุปสงค์ในความต้องการข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
การส่งเสริมการค้าและการลงทุน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศยุทธศาสตร์จังหวัดที่สะท้อนความต้องการและศักยภาพของพื้นที่และให้อยู่บนการแข่งขันที่เป็นธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม พัฒนาทักษะองค์ความรู้ของผู้ประกอบการไทย ในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการรูปแบบใหม่ให้มีจุดเด่น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ยกระดับศักยภาพของสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ไทยให้ก้าวไกลสู่สากล เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พัฒนาฐานการผลิตใหม่ กระจายกิจกรรมเศรษฐกิจและความเจริญสู่ภูมิภาค สร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งด้านการผลิตร่วมและช่องทางการตลาดร่วมกัน1. เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI ได้อย่างสม่ำเสมอในการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
2. เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ รับรองสินค้า GI สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและปกป้องสิทธิ์ผู้ผลิตสินค้าชุมชนที่มีเอกลักษณ์ และคุ้มครองผู้บริโภค สร้างความเชื่อมั่น ว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน
3. พัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้กับสินค้า GI เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและตรงตามความต้องการตลาด
4. เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น1. ทิศทางยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy) และสร้างความสมดุลในการพัฒนาเศรษฐกิจจากภายในสู่ภายนอก (Local to Global) อันจะส่งผลต่อการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ให้แก่ประเทศในระยะยาว การผลิตสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) ในชุมชน หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด ถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ที่จะต้องได้รับการส่งเสริมเพื่อเชื่อมโยงตั้งแต่การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการ การใช้เทคโนโลยี และการพัฒนานวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมทั้ง การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ จนสามารถนำไปสู่การสร้าง ผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเพิ่มการลงทุนในประเทศ และผลักดันรายเดิมให้มีศักยภาพและสามารถขยายการค้าการลงทุนจากตลาดท้องถิ่น ไปสู่ตลาดอาเซียนและตลาดโลกได้ในที่สุด
2. ทิศทางยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) กำหนดยุทธศาสตร์การสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้น การส่งเสริมการค้าและการลงทุน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศยุทธศาสตร์จังหวัดที่สะท้อนความต้องการและศักยภาพของพื้นที่และให้อยู่บนการแข่งขันที่เป็นธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม พัฒนาทักษะองค์ความรู้ของผู้ประกอบการไทย ในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการรูปแบบใหม่ให้มีจุดเด่น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ยกระดับศักยภาพของสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ไทยให้ก้าวไกลสู่สากล เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พัฒนาฐานการผลิตใหม่ กระจายกิจกรรมเศรษฐกิจและความเจริญสู่ภูมิภาค สร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งด้านการผลิตร่วมและช่องทางการตลาดร่วมกัน
3. จังหวัดสกลนคร ได้ดำเนินการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 5 ชนิดสินค้า ได้แก่ 1) ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร 2) ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี 3) หมากเม่าสกลนคร 4) น้ำหมากเม่าสกลนคร 5) เนื้อโคขุนโพนยางคำ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตตลักษณ์โดดเด่นที่มีชื่อเสียงและสร้างรายได้ให้กับจังหวัดสกลนคร ปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่รู้จักของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างแรงกระตุ้นเชิงอัตลักษณ์ของจังหวัด ให้เกิดความต้องการสินค้าและเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งในและต่างประเทศ
นำเข้าสู่ระบบโดย
musika เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 12:25 น.