ข้อมูลพื้นฐาน
ผู้ประกอบการ ชื่อ นางเพ็ญ ประสบศิลป์ ชื่อสถานที่ประกอบการฟาร์มแม่เพ็ญ ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 15 ตำบลจำปาโมง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี 41160 มีเนื้อที่ทั้งหมด 24 ไร่ เริ่มแรกผู้ประกอบการได้ทำการเกษตรแค่ปลูกข้าวจำนวน 10 ไร่ พื้นที่ที่เหลือเป็นป่าดงดิบผู้ประกอบการจึงได้คิดริเริ่มทำการลงทุนปลูกสวนยางในปี 52 จำนวน 4 ไร่ ทำมาได้สักพักเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ผู้ประกอบการจึงหันมาทำฟาร์มเห็ดในปี 57 จำนวน 1 ไร่ ปีถัดมาปี 58 ได้ลงทุนปลูกสวนอ้อยจำนวน 1 ไร่ และบ่อปลาดุกจำนวน 5 ไร่ ในปีเดียวกัน หลังจากนั้นผู้ประกอบการได้มีความสนใจที่จะปลูกกล้วย จำนวน 3 ไร่ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2559 ซึ่งเป็นกล้วยหอมทองปลอดสารพิษใช้ระยะเวลาในการปลูก 7 – 9 เดือน พอเข้าเดือนที่ 10 – 11 ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจำหน่ายขายให้กับให้กับกลุ่มวิสาหกิจกล้วยหอมสานน้ำโขงและลูกค้าทั่วไปข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
ข้อมูลประเด็นปัญหา
ปัญหากล้วยที่ไม่ได้คุณภาพ กล้วยมีผิวขรุขระไม่เรียบสวย จึงทำให้ผลผลิตไม่เป็นที่ต้องการของตลาด และยังทำให้กล้วยที่มีผิวขรุขระนี้ราคาต่ำข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
กล้วยหอม เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น กล้วยหอมจันท์ กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว โดยกล้วยหอมเขียวหรือกล้วยหอมคาเวนดิชเป็นกล้วยหอมที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไปจัดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารครบถ้วนตามหลักทางโภชนาการ เช่น มีวิตามิน ใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย มีสารแทนนิน ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ Escherichia coli
เป็นต้น กล้วยหอมถูกจัดเป็นผลไม้เมืองร้อน สามารถปลูกได้เกือบทุกประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นหลายแห่ง สำหรับประเทศไทย สามารถปลูกกล้วยหอมได้ทั่วทุกภาค ที่มา : ( พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ และคณะ. ทรัพยากรพืชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ) ผู้ประกอบการ ชื่อ นางเพ็ญ ประสบศิลป์ ปัจจุบันประกอบอาชีพ เกษตรกร อาชีพหลักเลี้ยงปลา ผู้ประกอบการมีอาชีพเสริม คือ ปลูกสวนยาง เพาะเห็ด ปลูกกล้วย ปลูกข้าว ปลูกอ้อย ที่สามารถจำหน่ายและบริโภคได้ตลอดทั้งปี ฟาร์มแม่เพ็ญตั้งอยู่ บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 15 ตำบลจำปาโมง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี มีเนื้อที่ทั้งหมด 24 ไร่ เริ่มแรกผู้ประกอบการได้ทำการเกษตรแค่ปลูกข้าวจำนวน 10 ไร่ พื้นที่ที่เหลือเป็นป่าดงดิบผู้ประกอบการจึงได้คิดริเริ่มทำการลงทุนปลูกสวนยางในปี 52 จำนวน 4 ไร่ ทำมาได้สักพักเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ผู้ประกอบการจึงหันมาทำฟาร์มเห็ดในปี 57 จำนวน 1 ไร่ ปีถัดมาปี 58 ได้ลงทุนปลูกสวนอ้อยจำนวน 1 ไร่ และบ่อปลาดุกจำนวน 5 ไร่ ในปีเดียวกัน หลังจากนั้นผู้ประกอบการได้มีความสนใจที่จะปลูกกล้วยในปี 59 จำนวน 3 ไร่ ซึ่งเป็นกล้วยหอมทองปลอดสารพิษใช้ระยะเวลาในปลูก 7 – 9 เดือน พอเข้าเดือนที่ 10 – 11 ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจำหน่ายขายให้กับให้กับกลุ่มวิสาหกิจกล้วยหอมสานน้ำโขงและลูกค้าทั่วไป ผู้ประกอบการประสบปัญหากล้วยที่ไม่ได้คุณภาพ กล้วยมีผิวขรุขระไม่เรียบสวย จึงทำให้ผลผลิตไม่เป็นที่ต้องการของตลาด และยังทำให้กล้วยที่มีผิวขรุขระนี้ราคาต่ำ ผู้ประกอบการมีความต้องการแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้กับกล้วย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกิจการ
ดังนั้น คณะผู้จัดทำได้เล็งเห็นปัญหาจึงได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่สามารถมาพัฒนากล้วยหอมที่ไม่ได้คุณภาพ คณะผู้จัดทำจึงได้ทราบแนวทางแก้ไข้ปัญหานี้พบว่าสิ่งที่สามารถพัฒนากล้วยหอมได้คือ การทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วยหอม ปัญหาดังกล่าวคือการทดลองทำผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบกล้วยหอมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่มีใครได้ทำในชุมชนและได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ประกอบการทำให้กล้วยที่เหลือจากการคัดออกและนำเข้าสู่กระบวนการผลิตให้เป็นข้าวเกรียบกล้วยหอมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเดิมที่ทำกล้วยหอมทอด
นำเข้าสู่ระบบโดย
udonthani_ru เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562 11:19 น.