ข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดสุรินทร์ ด้านอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวเนื่องหรือต่อยอดเป็นซับพลายเชนและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคธุรกิจ SMEs ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปข้อมูลประเด็นปัญหา
การลดระยะเวลาและต้นทุนการผลิต ลดภาระการพึ่งพิงกำลังแรงงาน ขณะเดียวกันสามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้นข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจ กระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ การลดความ สูญเปล่า การลดต้นทุน ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจ และเตรียมความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 และเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการและบุคลากรในสถานประกอบการ SMEs ให้มีขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย
โดยมีจำนวน SMEs จำนวนกว่า 3 ล้านราย มีการจ้างงานในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ถึง 10.7 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 80.4 ของการจ้างงานทั้งหมด ปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบไม่ว่าจะเป็น การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ SMEs ผนวกกับความ ผันผวนจากทิศทางของค่าเงิน การปรับเพิ่มสูงขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ การขยับขึ้นของราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างภาคอุตสาหกรรมโดยมีแรงจูงใจจากผลต่างค่าจ้าง และสวัสดิการที่แรงงานได้รับ ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปซึ่งมีสัดส่วน 85,000 ราย ในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง
วิธีหนึ่งที่ผู้ประกอบการ SMEs สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารธุรกิจ โดยการลดระยะเวลาและต้นทุนการผลิต ลดภาระการพึ่งพิงกำลังแรงงาน ขณะเดียวกันสามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้นตาม ซึ่งเป็นการมองภาพรวมของระบบการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่กระบวนการผลิตสินค้า กระบวนการขนส่งและกระจายสินค้า รวมถึงการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มทักษะฝีมือทรัพยากรแรงงานให้สอดคล้องและเหมาะสมกับงานที่รับผิดชอบ ซึ่งผู้ประกอบการอาจคิดหาวิธีตัดลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนลง เช่น การปรับเปลี่ยนสถานที่วางเครื่องจักร เพื่อลดเวลาการประกอบ และขนถ่ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เป็นต้น
แนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารธุรกิจ SMEs ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปให้มีศักยภาพและมีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถดำเนินการได้หลายวิธีการ ได้แก่ ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด โดยการนำเทคโนโลยีหรือระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในการผลิต หรือใช้เทคนิค Productivity Improvement Tools (เครื่องมือการปรับปรุงการเพิ่มผลิตภาพเชิงบูรณาการ) เช่น Lean-Kaizen เพื่อลดต้นทุนจากความสูญเปล่า TPM – Total Productive Maintenance เพื่อลดความสูญเสียที่เครื่องจักร TQM – Problem Solving Techniques เพื่อลดความสูญเสียจากของเสียในกระบวนการผลิต เป็นต้น นอกจากนี้ ในการบริหารจัดการธุรกิจสามารถนำระบบอัตโนมัติและระบบดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแต่ละขั้นตอนของการดำเนินการ เพื่อเตรียมความพร้อมองค์กรเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
จากเหตุผลดังกล่าว สถาบันบริการวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป เพื่อช่วยให้ SMEs มีการบริหารจัดการธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น และสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
นำเข้าสู่ระบบโดย
monteearu เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 19:09 น.