ข้อมูลพื้นฐาน
สภาพทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ของชุมชนไทยพวน ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ชาวบ้านมีความความผูกพันกับวัด วัดเป็นศูนย์ร่วมของกิจกรรมหลายๆอย่างในชีวิตประจำวันของชุมชน ชาวบ้านสามารถหารายได้โดยการผลิตสินค้าและจำหน่ายที่วัด รวมทั้งกลุ่มอาชีพต่างๆ ในชุมชน วัดก็มีส่วนในการให้คำปรึกษาแก่กลุ่มอาชีพต่างๆ เช่น กลุ่มทอผ้า กลุ่มการทำไข่เค็มและ กลุ่มการทำปลาดูสมุนไพร เป็นต้น ซึ่งกลุ่มอาชีพต่างๆ มีส่วนสัมพันธ์กับความนิยมของวัดข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
ข้อมูลประเด็นปัญหา
ข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
ความรู้ความเชี่ยวชาญที่ใช้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย
1) ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
2) ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในพิพิธภัณฑ์ โดยการใช้ QR code ในการทำทะเบียนวัตถุ
3) ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์จังหวัดนครนายกและชุมชนไทยพวนพิพิธภัณฑสถานนับเป็นแหล่งความรู้ที่มีความสำคัญ เป็นองค์กรหลักในการอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อการเรียนรู้ในสังคม นอกจากจะช่วยปลูกฝังให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนได้เห็นความสำคัญในมรดกของชาติ จนเกิดความรักความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่ายิ่งแล้ว พิพิธภัณฑสถานยังเป็นสถาบันการศึกษานอกระบบสำหรับการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต ที่เพิ่มพูนและพัฒนาภูมิปัญญาให้แก่ประชาชนในสังคมทุกระดับ
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนเป็นสถานที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของชาวไทยพวน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมลักษณะทางวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของชาวไทยกลุ่มนี้จากสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย ได้แก่ ผ้าซิ่นไทยพวน โม่หิน ถังต้มกาแฟโบราณ อุปกรณ์ทำการเกษตร เครื่องมือทอผ้า เป็นต้น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนจึงเป็นเสมือนแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทยมานานหลายร้อยปี
อย่างไรก็ตาม จากการจัดโครงการอย่างต่อเนื่องของคณะสังคมศาสตร์ (เงินรายได้ของคณะ) ในพื้นที่ของวัดฝั่งคลอง ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก จากการสรุปผลโครงการสังคมศาสตร์อาสาสู่ชุมชน ปี 5 ที่จัดขึ้นในปีงบประมาณ 2560 ทางคณะสังคมศาสตร์ได้จัดสำรวจความต้องการของชุมชนไปด้วยพร้อมๆกัน ซึ่งทางศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลและรับผิดชอบพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการจัดทำทะเบียนวัตถุในพิพิธภัณฑ์เพื่อช่วยจัดการให้พิพิธภัณฑ์มีความเป็นระบบและระเบียบมากขึ้น เนื่องจากสิ่งของในพิพิธภัณฑ์มักได้รับการบริจาคมาจากประชาชนในท้องถิ่น แต่ไม่เคยมีการทำเป็นทะเบียนรายชื่อหรือการจดบันทึกเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน รวมถึงความต้องการในการนำความรู้ทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์มาช่วยอบรมและทำให้เยาวชนในชุมชนพร้อมที่จะสืบสานการดูแลพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ต่อไปในอนาคต จากศักยภาพของคณะสังคมศาสตร์ในการส่งเสริมงานศิลปวัฒนธรรมและผูกพันกับชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คณะฯเล็งเห็นถึงการดำเนินการจัดทำทะเบียนวัตถุ พร้อมๆกับการช่วยทำให้เยาวชนรู้จักและเริ่มที่จะเรียนรู้การจัดการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของตนซึ่งช่วยส่งเสริมการตระหนักและสำนึกรักท้องถิ่นและทราบประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษของตน ซึ่งเยาวชนและคนในชุมชนจะสามารถถ่ายทอดความรู้ในด้านต่างๆ และนำประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้กับการบริหารงานของหน่วยงานตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คณะสังคมศาสตร์ได้งบประมาณในการดำเนินงานโครงการดังกล่าวในปีงบประมาณ 2561 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัตถุในพิพิธภัณฑ์มีเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในปีงบประมาณ 2562 โดยทางคณะสังคมศาสตร์ได้เพิ่มความช่วยเหลือในการจัดนิทรรศการของวัตถุในพิพิธภัณฑ์เพิ่มเข้ามาด้วย โดยเพิ่มคำอธิบายในวัตถุต่างๆ เพื่อเอื้อต่อการเป็นประโยชน์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่อไปในอนาคต
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงเล็งเห็นว่าการบริการวิชาการแก่ชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืนต้องมาจากความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ และเพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจของคณะฯ รวมถึงเพื่อให้เกิดการบูรณาการทั้งการเรียนการสอนและการวิจัย โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้นิสิตในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทมีประสบการณ์จริงจากการเข้าไปช่วยในการจัดการพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบของการปฏิบัติจริง ซึ่งส่วนมากบัณฑิตมักได้รับเพียงแต่การศึกษาจากภาคทฤษฎี โครงการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมประสบการณ์ตรงในการดำเนินงานในพิพิธภัณฑ์อย่างแท้จริง สามารถปฏิบัติงานได้ทันทีตามความต้องการของหน่วยงานราชการต่างๆ
นำเข้าสู่ระบบโดย
SSOSWU เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 14:07 น.