ข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
ข้อมูลประเด็นปัญหา
ข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูรระบุว่า การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ได้แก่ 1) มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 2) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง – มีคุณธรรม 3) มีงานทำ– มีอาชีพ 4. เป็นพลเมืองดี และแนวปฏิบัติในเรื่อง “การมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง – มีคุณธรรม” ได้แก่ 1) รู้จักแยกแยะ ผิด-ชอบ ชั่ว-ดี 2) ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม 3) ปฏิเสธสิ่งที่ผิด สิ่งที่ชั่ว 4) ช่วยกันสร้างคนดีให้บ้านเมือง (ศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวสถิรคุณ. 2560: 10-12) และในปี พ.ศ.2555 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งพระราชทานให้แก่คณะองคมนตรี ในการจัดตั้ง “กองทุนการศึกษา” โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อดำเนินงานในกองทุน และ ทรงมีพระราชประสงค์ว่า “ให้โรงเรียนสร้างคนดีให้บ้านเมือง” โดยได้พระราชทานหลัก 3 ประการในเรื่องครูและนักเรียน ดังนี้
“ให้ครูรักเด็ก และเด็กรักครู ให้ครูสอนให้เด็กมีน้ำใจต่อเพื่อน
ไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตัวเอง และให้เด็กที่เรียนเก่งช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า
ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี”
การจัดการศึกษาให้แก่เยาวชนในปัจจุบัน เป็นไปตามนโยบายและแผนของประเทศ ได้แก่โดยที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ได้กำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนไว้ 8 ประการ ได้แก่ 1.รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2.ซื่อสัตย์สุจริต 3.มีวินัย 4.ใฝ่เรียนรู้ 5.อยู่อย่างพอเพียง 6.มุ่งมั่นในการทํางาน 7.รักความเป็นไทย และ 8.มีจิตสาธารณะ ส่วน2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 กำหนดวัตถุประสงค์ มุ่งให้มีการวางรากฐานให้คนไทยเป็นคนที่สมบูรณ์ มีคุณธรรม จริยธรรม และจากการวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มของสังคมไทย พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหาด้านคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความมีวินัย ความซื่อสัตย์สุจริต และจิตสาธารณะ และจากการสะท้อนปัญหาของนักเรียนและครู พบว่า ในปัจจุบันนักเรียนยังมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์อยู่บางประการ เช่น ขาดวินัย ขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขาดความรับผิดชอบ ขาดความซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติกรรมเสี่ยง / ก้าวร้าว และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560–2579 ได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ 4 ประการ ได้แก่ พัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้รักสามัคคี และร่วมผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางและความเหลื่อมล้ำภายในประเทศลดลง และ4. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน ได้ระบุไว้ในมาตรา 54 ว่า การศึกษาทั้งปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี หรือแม้แต่รัฐบาลปัจจุบันก็ยังมีนโยบายที่จะจัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ เพื่อสร้างคุณภาพของคนไทยให้เป็นคนดี มีคุณธรรม เป็นต้น จากข้อมูลเหล่านี้ จึงเป็นเหตุผลเบื้องต้นที่โรงเรียนจำเป็นต้องพัฒนาเป็นโรงเรียนบ่มเพาะคุณธรรมตามความสนใจ
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดมีหน้าที่ในการผลิตและพัฒนาครูเป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีภาระกิจการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม และการบริการวิชาการในท้องถิ่น ซึ่งมีพื้นที่บริการวิชาการจำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร และอำนาจเจริญ โดยมีประเด็นเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้แก่ผู้เรียนในระดับต่าง ๆ โดยอาศัยองค์ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมศาสตร์ทางการศึกษาในการส่งเสริมและพัฒนา
ดังนั้นจึงได้ดำเนินการ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดจึงได้ดำเนินการโครงการบ่มเพาะคุณธรรม จริยธรรมให้กับนักเรียนในระดับปฐมวัย ประถมและมัธยมศึกษาขึ้น