ข้อมูลพื้นฐาน
บ้านแก้งนคร หมู่ 7 ตำบลนิคม อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ หมู่บ้านตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอสหัสขันธ์ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 3 กม อาชีพหลักของคนในชุมชนได้แก่ ทำนา ทำไร่ และประมงข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
เนื่องจากพื้นที่แถบนี้นิยมเพาะปลูก อ้อย มันสำประหลัง ยางพารา และข้าว เป็นอาชีพหลักของเกษตรกร แต่เนื่องด้วยศักยภาพของชุมชนทำให้เกิดข้อจำกัดในด้านแหล่งทุนในการใช้ปุ๋ยที่ได้จากสารเคมี ดังนั้นกลุ่มเกษตรจึงมีการร่วมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นมาใช้ทดแทนปุ๋ยที่ได้จากสารเคมีข้อมูลประเด็นปัญหา
1.ปัญหาระดับต้นน้ำ ขาดองค์ความรู้ในกรรมวิธีการเติมแร่ธาตุในปุ๋ยอินทรีย์ในขันตอนระหว่างการหมัก
2.ปัญหาระดับกลางน้ำ ขาดเครื่องจักรกลที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์
3.ปัญหาระดับปลายน้ำ ขาดช่องทางในการจำหน่ายสินค้าหรือช่องทางการส่งเสริมทางการตลาดแบบสมัยใหม่ข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
1.ต้องการพัฒนากระบวนการเติมแร่ธาตุในปุ๋ยอินทรีย์ระหว่างขั้นตอนการหมัก เพื่อยกระดับมาตรฐานของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้มีปริมาณแร่ธาตุตามสัดส่วนที่พืชต้องการเช่น ปรับปรุงกระบวนการ เติมแร่ธาตุประกอบหลัก หรือหาสัดส่วนที่เหมาะสมของปริมาณแร่ธาตุในปุ๋ยอินทรีย์
2. ต้องการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยเช่น เครื่องหมักปุ๋ยและกากของวัชพืช เพื่อลดต้นทุนในกระบวนการการผลิตและบรรจุภัณฑ์
3. ยังขาดองค์ความรู้ด้านการตลาดแบบออนไลน์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการขายผลผลิตที่ได้ด้านวิศวกรรมการออกแบบและสร้างเครื่องจักร ด้านมาตรฐานการผลิต ด้านการออกแบบบรรจุบรรจุภัณฑ์ ด้านการตลาดออนไลน์ปุ๋ยอินทรี คือสารอินทรีย์ที่เป็นแหล่งกักเก็บแร่ธาตุจากธรรมชาติ ซึ่งได้จาก ดิน เศษไม้ เศษหญ้า ขยะ วัสดุเหลือใช้จากการเกษตร และมูลสัตว์ ที่สำคัญปุ๋ยอินทรีย์สามารถนำมาใช้ในการช่วยบำรุงพืชผลทางการเกษตรหรือใช้เพาะปลูกในภาคเกษตรกรรม เช่น ใช้บำรุง ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ไม้สวน และไม้ปะดับ อื่น ๆ เป็นต้น
พืชผลทางการเกษตร เป็นพืชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้บริโภคภายในประเทศ และส่งออก ได้แก่ ข้าว แป้งมันสำปะหลัง ยางพารา น้ำตาลทราย และไม้ประดับบางชนิด โดยเป็นแหล่งสร้างงานแก่เกษตรกรชาวไร่ ชาวนาทั่วประเทศ และแรงงานในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 ล้านคน และปลูกในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่า 63 ล้านไร่ ครอบคลุม 20 จังหวัดในภาคอีสาน (ผลสำรวจเบื้องต้น ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2562 สำนักงานเศษกิจการเกษตร) และเป็นพื้นที่เพาะปลูกมากที่สุดในประเทศ แต่ปัจจุบันการพืชผลทางการเกษตรของกลุ่มเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประสบปัญหาในเรื่องของภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และ อื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรเกิดความเสียหา และไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ จากปัญหาดังกล่าว ยังเกิดผลพวงส่งผลให้เกิดโรคระบาดกับมีแมลงศัตรูพืชเพิ่มสูงขึ้น นั้นหมายถึงต้นทุนในการเพาะปลูกและการบำรุงรักษาจากค่ายาฆ่าแมลง และสารเคมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อถึงฤดูของการเก็บเกี่ยวผลผลิตก็เกิดการขาดดุลทางการค้า จากราคาที่ตกต่ำสุดในรอบ 5 ปี เช่น อ้อย ข้าว ยางพารา ดังนั้นการแก้ไขปัญหาและหาแนวทางออกร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ชุมชนร่วมกับกลุ่มเกษตรกรจึงเป็นประเด็นสำคัญในปัจจุบัน เพื่อฟื้นฟูและยกระดับของกลุ่มเกษตรให้กลับมามีความมั่นคง มั่งคั่ง และศักยภาพที่เข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจต่อไป
ดังนั้นคณะกลุ่มทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น จึงได้ศึกษาข้อมูลจากกลุ่มเกษตรที่อยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ และพื้นที่ใกล้เคียงนำมาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งพบว่าทางออกที่ดี คือหน่วยงานจากภาครัฐควรสนับสนุน และเร่งส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรมีองค์ความรู้ ทักษะความสามารถในการแก้ไขปัญหา และการบริหารจัดการทรัพยากรได้ด้วยตัวเองในระยะยาวเพื่อส่งเสริมกรรมวิธีในการเพิ่มปริมาณผลผลิตทางการเกษตร ลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต และสนับสนุนให้เกิดการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร ของเสีย และมูลสัตว์ ให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนการใช้ปุ๋ยที่ได้จากสารเคมีโดยตรง เพื่อช่วยยกระดับของเกษตรกรในพื้นที่ให้เกิดการพัฒนาการทำเกษตรได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนเกิดรายได้ ที่สำคัญยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการทำลายชั้นหน้าดินที่เกิดจากการใช้สารเคมีในปัจจุบัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการวิจัย และสร้างเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อเพิ่มช่องทางเลือกให้แก่เกษตรกรในชุมชน โดยมีแผนบูรณาเรื่อง การพัฒนานวัตกรรมการผลิตปุ๋ยเกษตรอินทรีย์เพื่อยกระดับวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการบูรณาการที่หาช่องทางเลือกให้กับกลุ่มเกษตรในจังหวัดพื้นที่กาฬสินธุ์ โดยโครงการมีการจัดการปัญหาที่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ด้วยต้นแบบเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเป็นการส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร มูลสัตว์กลับมาเพิ่มมูลค่า เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในชุมชนอย่างยั่งยืน
นำเข้าสู่ระบบโดย
boosiri เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 18:53 น.