ข้อมูลพื้นฐาน
ตำบลระแหง เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอลาดหลุมแก้ว พื้นที่มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มและสูง พื้นที่บางส่วนได้รับประกาศเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2549 มีการปกครองแบ่งเป็น 12 หมู่บ้าน สภาพโดยทั่วไปในอดีตพื้นที่ตำบลระแหง เป็นป่าพง มีสัตว์เล็กใหญ่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะมีความปลอดภัยและอาหารของสัตว์อย่างเพียงพอ ในฤดูน้ำหลากลงมาพื้นที่ตำบลนี้ จะท่วมทุกพื้นที่ ลึก-ตืน ตามสภาพของพื้นที่และในฤดูแล้ง น้ำตามธรรมชาติจะแห้งเป็นเวลาหลายวันจนกว่าจะถึงฤดูฝน จึงทำให้บริเวณช่วงน้ำดังกล่าวแตกแยกเป็นรอยทั่วๆจำนวนมาก ราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จึงเรียกขานว่า “คลองระแหง” ตั้งแต่ย้ายถิ่นฐานมา
คำว่า ระแหง จึงได้เป็นชื่อของตำบลนี้ มีความสำคัญตามหลักฐานทางราชการ เป็นที่ตั้งอำเภอ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2458 เป็นการชั่วคราว ก่อนมีชื่อว่า “อำเภอระแหง” ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ.2458 ได้ประกาศให้เรียกชื่ออำเภอที่สร้างใหม่ว่า อำเภอลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง มีความสำคัญในด้านศูนย์รวมชุมชน โดยมีลำคลองระแหง เป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าการเกษตรและสัญจรทางเรือ ซึ่งในพื้นที่ตำบลนี้มีประวัติเล่าขานกันต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน เช่น ถ้ำตะบีน บ้านตับผักชี มีศูนย์กลางขนส่งสินค้าเกษตรทางเรือ มีรถไฟสายระแหง-บางบัวทอง และปัจจุบันตำบลระแหงได้พัฒนาด้านสาธารณูปโภคมากมาย
ประวัติตำบลระแหง ตำบลระแหงเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอลาดหลุมแก้ว พื้นที่มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มและสูง พื้นที่บางส่วนได้รับประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2449 มีการปกครองแบ่งเป็น 12 หมู่บ้าน สภาพโดยทั่วไปในอดีตพื้นที่ตำบลระแหง เป็นป่าพง มีสัตว์เล็กใหญ่ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะมีความปลอดภัยและอาหารของสัตว์อย่างเพียงพอ ในฤดูน้ำหลากลงมาพื้นที่ตำบลนี้ จะท่วมทุกพื้นที่ ลึก-ตื้น ตามสภาพของพื้นที่และในฤดูแล้ง น้ำตามธรรมชาติจะแห้งเป็นเวลาหลายวันจนกว่าจะถึงฤดูฝน จึงทำให้บริเวณช่วงน้ำดังกล่าวแตกแยกเป็นรอยทั่วๆจำนวนมาก ราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จึงเรียกขานกันว่า “คลองระแหง” ตั้งแต่ย้ายถิ่นฐานมา
คำว่า ระแหง จึงได้เป็นชื่อของตำบลนี้ มีความสำคัญตามหลักฐานทางราชการ เป็นที่ตั้งอำเภอ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2458 เป็นการชั่วคราว ก่อนมีชื่อว่า “อำเภอระแหง” ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ.2458 ได้ประกาศให้เรียกชื่ออำเภอที่สร้างขึ้นใหม่ว่า “อำเภอลาดหลุมแก้ว” ตำบลระแหง มีความสำคัญในด้านศูนย์รวมชุมชนโดยมีลำคลองระแหง เป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าการเกษตรจากทางเรือ ซึ่งในพื้นที่ตำบลนี้มีประวัติเล่าขานต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน
ที่ตั้งของหมู่บ้าน/ชุมชน/ตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบลระแหง อยู่ห่างจากอำเภอลาดหลุมแก้วไปทางทิศตะวันออกประมาณ 4 กิโลเมตร มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 39.19 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 24,493.25 ไร่ จำนวนหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ จำนวน 9 หมู่บ้าน ดังนี้
หมู่ที่ 1 มีจำนวนหมู่บ้านอยู่ในเขต อบต.บางส่วน อยู่ในเขต ทต.ระแหง บางส่วน
หมู่ที่ 5 มีจำนวนหมู่บ้านอยู่ในเขต อบต.บางส่วน อยู่ในเขต ทต.ระแหง บางส่วน
หมู่ที่ 6 มีจำนวนหมู่บ้านอยู่ในเขต อบต.บางส่วน อยู่ในเขต ทต.ระแหง บางส่วน
หมู่ที่ 7 มีจำนวนหมู่บ้านเต็มทั้งหมู่บ้าน
หมู่ที่ 8 มีจำนวนหมู่บ้านอยู่ในเขต อบต.บางส่วน อยู่ในเขต ทต.ระแหง บางส่วน
หมู่ที่ 9 มีจำนวนหมู่บ้านเต็มทั้งหมู่บ้าน
หมู่ที่ 10 มีจำนวนหมู่บ้านเต็มทั้งหมู่บ้าน
หมู่ที่ 11 มีจำนวนหมู่บ้านเต็มทั้งหมู่บ้าน
หมู่ที่ 12 มีจำนวนหมู่บ้านเต็มทั้งหมู่บ้าน
และในเขตตำบลระแหงมีท้องถิ่นอื่นในตำบล 1 แห่ง คือ เทศบาลตำบลระแหง โดยมี
อาณาเขตติดต่อกับท้องถิ่นอื่น ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลบ่อเงิน และตำบลหน้าไม้
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลคลองพระอุดม และตำบลลาดหลุมแก้ว
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลคูขวาง และตำบลคูบางหลวง
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลหน้าไม้ และตำบลลาดหลุมแก้วข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
1. คนในชุมชนปลูกข้าวเป็นสินค้าส่งออกหลัก
2. มีดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การท่าเกษตรกรรมข้อมูลประเด็นปัญหา
ข้าวที่ปลูกเป็นข้าวคุณภาพต่่า ซึ่งใช้ส่าหรับท่าแป้ง หรือเป็นอาหารสัตว์ ท่าให้ไม่สามารถน่ามารับประทานได้
ต้องซื้อข้าวจากที่อื่นมารับประทาน รวมถึงขายข้าวได้ในราคาที่ไม่สูงนัก เนื่องจากเป็นข้าวคุณภาพต่่าข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
มีหลายครัวเรือนที่สนใจร่วมโครงการกับทางมหาวิทยาลัย ในการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตAction Learning คือ การรวมกลุ่มของคนที่มีระดับของทักษะและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและพัฒนาแผนการดำเนินงาน โดยการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ และองค์ความรู้การน้ำหมักชีวภาพและสบู่ล้างมือจากสารสกัดข้าวนวัตกรรมชุมชน , นวัตกรรมเกษตร , นวัตกรรมแก้จน , นวัตกรรมสังคม
ตามที่ภาครัฐได้เชื่อมโยงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติเข้ากับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ของประเทศไทย และยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ 20 ปี ระหว่างปี 2560 ถึง ปี 2579 โดยน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพัฒนาแบบยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่ และใช้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบาย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับรายได้ของประชาชน แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร พัฒนาโภชนาการและความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ของประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ก็ทรงมีพระปณิธานแน่วแน่ที่จะสานต่อโครงการในพระราชดำริของพระราชบิดา เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นำเข้าสู่ระบบโดย
learnoffice เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 13:54 น.