โครงการยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะส่งเสริมกิจกรรมทางกาย

ประชุมทีมประเมิน HIA PA 3 ภาค11 ตุลาคม 2567
11
ตุลาคม 2567รายงานจากพื้นที่ โดย Yuttipong Kaewtong
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

ประชุมวางแผนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกาย

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

สรุปการประชุมวางแผนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกาย วัตถุประสงค์ของการประชุม ชี้แจงรายละเอียดโครงการ วางแผนและกำหนดแนวทางการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกมิติของโครงการ PA

ผลผลิตและผลลัพธ์ 1. กำหนดเป้าหมายและขอบเขตการประเมิน HIA - กำหนดกรอบแนวทางการประเมิน ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต และผลกระทบต่อสังคม

2. ออกแบบเครื่องมือประเมิน HIA - พัฒนาเครื่องมือและตัวชี้วัดเพื่อวัดผลลัพธ์ด้านสุขภาพ เช่น ระดับความตระหนักรู้ทางสุขภาพ ระยะเวลาในการมีกิจกรรมทางกาย และการเปลี่ยนแปลงของสุขภาวะ
- ใช้ทั้งการสำรวจเชิงปริมาณและการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากกลุ่มเป้าหมาย

3. ปัจจัย (Input) ประกอบด้วยทรัพยากรหลักที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการและการประเมิน HIA ได้แก่: - คน/เครือข่าย: ภาคีจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนกิจกรรม - งบประมาณ/แหล่งทุน: โครงการ PA และแหล่งทุนจากภาครัฐและองค์กรอื่น - ข้อมูล ระบบ/ทรัพยากรสนับสนุน
- ชุดความรู้

4. กระบวนการ (Process) กระบวนการดำเนินงาน (Process) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกาย มีรายละเอียดดังนี้
1) กำหนดผู้รับผิดชอบในระดับภาค การจัดตั้งทีมงานระดับภาคเพื่อดูแลและรับผิดชอบโครงการถูกแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาคหลัก ได้แก่
- ภาคเหนือ: ลำพูน และ น่าน
- ภาคอีสาน: อุบลราชธานี และ อำนาจเจริญ
- ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี และ ตรัง
ในขั้นตอนนี้ ทีมภาคมีหน้าที่สำคัญในการสร้างกลไกการทำงาน ได้แก่: 1.1 การพัฒนากลไกพี่เลี้ยง ทีมงานในแต่ละภาคจะพัฒนาพี่เลี้ยง โดยพี่เลี้ยงจะสนับสนุนวิชาการทำแผนและโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับพื้นที่
1.2 การวางกลไกการสื่อสาร แต่ละภูมิภาคจะออกแบบระบบการสื่อสารเพื่อให้การประสานงานระหว่างทีมงานในแต่ละภาคเพื่อประชาสัมพันธ์งาน PA และจัดทำคลิปวิดีโอในพื้นที่ต้นแบบ เพื่อถ่ายทอดบทเรียนดีๆให้กับพื้นที่อื่นๆ
1.3 การวางกลไกด้านสถาปนิก การออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมที่สนับสนุนกิจกรรมทางกายเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ โดยทีมภาคจะวางกลไกสนับสนุนด้านการออกแบบพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
1.4 การคัดเลือกพื้นที่เข้าร่วมโครงการ กำหนดเกณฑ์และวิธีการเลือกพื้นที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
1.5 การอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ ทีมงานจะจัดอบรมให้กับตัวแทนจาก 60 แห่ง เพื่อพัฒนาทักษะด้านการวางแผนและการเขียนโครงการ
1.6 การปรับปรุงแผนโครงการ: แผนโครงการจะถูกปรับปรุงให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และข้อเสนอแนะจากชุมชน
2) การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม มีการดำเนินงานออกแบบพื้นที่เชิงสถาปัตยกรรมในพื้นที่นำร่องจำนวน 13 แห่ง โดยมุ่งเน้นให้พื้นที่เหล่านี้เอื้อต่อการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการมีกิจกรรมทางกายอย่างต่อเนื่อง
3) การทดลองปฏิบัติการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย โครงการทดลองจำนวน 46 โครงการถูกนำมาทดสอบในพื้นที่จริง เพื่อศึกษาผลลัพธ์และหาบทเรียนในการพัฒนานโยบาย ทั้งนี้ การทดลองเหล่านี้จะเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นได้ต่อไป
4) การสื่อสารสาธารณะในระดับพื้นที่ การสื่อสารสาธารณะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากประชาชน โดยมีการพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายสื่อในระดับท้องถิ่นเพื่อให้สามารถสื่อสารนโยบายและข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครือข่ายสื่อท้องถิ่นยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ผ่านการเผยแพร่ข้อมูลและส่งเสริมกิจกรรมทางกายไปสู่ชุมชน
สรุป กระบวนการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายนี้ถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การวางแผนระดับภาค การสร้างกลไกสนับสนุน การออกแบบพื้นที่ การทดลองปฏิบัติการในพื้นที่จริง และการสื่อสารสาธารณะ กระบวนการทั้งหมดนี้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ลดปัญหาสุขภาพ และส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนในทุกภูมิภาคของประเทศไทย 5) ผลผลิตผลลัพธ์เน้นผลการส่งเสริม 4 ด้านหลัก: 1) Active People: ส่งเสริมความรู้ ความตระหนัก และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน 2) Active Environment: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อกิจกรรมทางกาย 3) Active Society: สร้างความร่วมมือในชุมชนและภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง 4) Active System: พัฒนาระบบที่เอื้อต่อการส่งเสริมกิจกรรมอย่างเป็นระบบ

4. ผลลัพธ์ (Outcome) - กิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น: จำนวนผู้เข้าร่วมและความถี่ของการมีกิจกรรมทางกายมากขึ้น - NCDs ลดลง: การลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อ (Non-Communicable Diseases)

สรุปภาพรวม แผนภาพนี้แสดงให้เห็นกระบวนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ประกอบกับหลักการโมเดล CIPP เป็นแนวทางในการประเมินโครงการหรือกิจกรรม โดย CIPP ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ตั้งแต่ปัจจัยนำเข้า การดำเนินงาน ผลผลิตผลลัพธ์ ดังนี้: 1. C - Context (บริบท): ประเมินความเหมาะสมของโครงการกับบริบท เช่น สภาพแวดล้อมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 2. I - Input (ปัจจัยนำเข้า): ตรวจสอบทรัพยากรและแผนงานที่ใช้ เช่น งบประมาณ บุคลากร และเครื่องมือ 3. P - Process (กระบวนการ): ประเมินขั้นตอนการดำเนินงานและวิธีการดำเนินโครงการ เพื่อดูความเหมาะสมและประสิทธิภาพ 4. P - Product (ผลลัพธ์): ตรวจสอบผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเน้นการเชื่อมโยงระหว่างชุมชน ภาคส่วนต่างๆ และการสนับสนุนจากระบบเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน ทั้งยังมุ่งหวังให้มีการขยายผลไปสู่ระดับนโยบายเพื่อลดปัญหา NCDs ในระยะยาว

แผนการประชุมถัดไป - การทบทวนเครื่องมือการประเมิน
- รวบรวมความคิดเห็นจากภาคีเครือข่าย และลงพื้นที่ติดตามประเมินผล