โครงการบูรณาการกลไกสร้างเสริมสุขภาวะระดับตำบลและอำเภอ เขต 10

เวทีชี้แจงเป้าหมายการดำเนินงานโครงการและลงนามความร่วมมือ (MOU) ระดับอำเภอคำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี17 มกราคม 2566
17
มกราคม 2566รายงานจากพื้นที่ โดย ประชาสังคม-10
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง
  1. ชี้แจงรายละเอียดโครงการบูรณาการกลไกสร้างเสริมสุขภาวะระดับตำบลและอำเภอเพื่อการจัดการระบบสุขภาพชุมชน
  2. แลกเปลี่ยนให้ข้อมูลการบริหารจัดการกองทุนหลักประสุขภาพท้องถิ่น ปี 2566
  3. พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)
  4. วางแผนการดำเนินงานขับเคลื่อนการบูรณาการกลไกสุขภาวะระดับตำบลและอำเภอ
circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม
  1. ชี้แจงรายละเอียดโครงการบูรณาการกลไกสร้างเสริมสุขภาวะระดับตำบลและอำเภอเพื่อการจัดการระบบสุขภาพชุมชน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงค์เทพ  สุธีรวุฒิ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครรินทร์

- สุขภาพ คือ สุข+ภาวะ หมายถึง ภาวะที่เป็นสุข
- พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ นิยามคำว่าสุขภาพ ประกอบด้วย โรคทางกาย (สุขภาพกาย+สุขภาพจิต) โรคทางจิตวิญญาณ (สุขภาพทางสังคม+สุขภาพทางจิตวิญญาณ/ปัญญา) - ปัญหาสุขภาพในชุมชน 1. ปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่ สารเสพติด/อุบัติเหตุ/มลพิษสิ่งแวดล้อม/โรคอุบัติใหม่/สุขภาพจิต)
2. โรคเรื้อรัง (อาหาร/กิจกรรมทางกาย) - ตัวอย่างความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพในพื้นที่ ระดับความรุนแรงของสารเสพติดที่สร้างอันตรายและเสียหายต่อคน พบว่า เหล้ามีคะแนนความรุนแรงสูงที่สุด มากกว่ายาเสพติด
- แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพ 1) กรรมการกองทุนมีความรู้ 2) กองทุนมีแผน (มีข้อมูลสถานการณ์ปัญหาที่ชัดเจน) 3) มีโครงการที่มีคุณภาพ

  1. แลกเปลี่ยนให้ข้อมูลการบริหารจัดการกองทุนหลักประสุขภาพท้องถิ่น ปี 2566 ผู้แทนจากสำนักงาหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 10

- การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรของ สปสช.เขต ให้มีการแบ่งกลุ่มจังหวัด 2 กลุ่ม - รพ.สต.ที่ถ่ายโอน ยังได้รับงบประมาณสมทบจาก สปสช.เหมือนเดิม - โครงการ สสส.จะเข้ามาหนุนเสริมพัฒนางานกองทุน ให้เกิดโครงการที่มีคุณภาพและพัฒนานวัตกรรมของงานกองทุนได้มากขึ้น
- ระเบียบเกี่ยวกับกองทุนฯที่ปรับใหม่
1) ต้องมีการขออนุมัติแผนการใช้จ่ายงบกองทุน เมื่อ สปสช.อนุมัติแผนแล้วจึงจะโอนงบสมทบ
2) แผนกองทุน ต้องเอาปัญหาพื้นที่เป็นตัวตั้ง โดยต้องมีความเชื่อมโยงกับปัญหาของชุมชน (ใช้ข้อมูลจากหน่วยบริการ รพ.สต. และใช้กระบวนการประชาคม นำข้อมูลปัญหาสุขภาพ มาเรียงลำดับความสำคัญ) เพื่อมุ่งให้เกิดการ สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของประชาชนได้จริง
3) ไม่ให้มีเงินค้างเกิน 2 เท่า
4) เพิ่มหมวดที่ 6 ให้จัดสรรงบในการซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ได้ (ผู้ป่วยเฉพาะราย)
5) หลังเดือนมีนาคมของทุกปี กองทุนสามารถของบสมทบจาก สปสช.เพิ่มได้ โดยกองทุนต้องสมทบเพิ่ม 100%


  1. วางแผนการดำเนินงานขับเคลื่อนการบูรณาการกลไกสุขภาวะระดับตำบลและอำเภอ

    -  แนวทางการสำรวจข้อมูล
      1) คัดเลือกทีมพี่เลี้ยงหลัก จาก 2 ส่วน ได้แก่ อปท.+รพ.สต. (อย่างน้อย 5 คนต่อกองทุน)   2) คัดเลือกทีมเก็บข้อมูล (อย่างน้อย 5 คนต่อกองทุน)   3) กำหนดเก็บข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ก.พ.2566
      4) นัดหมายกรอกข้อมูลในระบบออนไลน์และสร้างแผนงาน วันที่ 14 ก.พ.2566

  2. พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)

- พื้นที่เป้าหมาย 7 กองทุน ได้แก่
1. กองทุนฯ อบต.สงเปือย
2. กองทุนฯ อบต.เหล่าไฮ
3. กองทุนฯ อบต.นาคำ
4. กองทุนฯ อบต.กู่จาน
5. กองทุนฯ อบต.โพนทัน
6. กองทุนฯ ทต.ดงแคนใหญ่
7. กองทุน อบต.ทุ่งมน

  1. แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

- นายอำเภอ-การพัฒนาคุณภาพชีวิตต้องเน้นพัฒนาคนก่อน คนคือปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุด ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมกันพัฒนาสติปัญญาของคน - เอกสารประกอบการประชุม ประเด็นขอความร่วมมือจากพื้นที่ คำว่าท้องทุ่ง (ไม่อยากให้นำ รพ.สต.ไปรวมด้วย) - การประสานงานต้องให้ความสำคัญกับทั้งฝั่ง อปท.และฝั่งสาธารณสุขต้องทำควบคู่กัน
- เป้าหมายในการจัดทำแผนระดับอำเภอ มีความสำคัญ โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลปัญหาของพื้นที่ (ในทางปฏิบัติอาจมีทั้งประเด็นที่สอดคล้องกันและบางประเด็นที่อาจแตกต่างจากประเด็นเป้าหมาย สสส.ด้วยเช่นกัน) - มองเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น อาทิเช่น ได้พัฒนาศักยภาพคนทำงาน(บุคลากร อปท.) และได้ระบบข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาแผนแก้ไขปัญหาของชุมชนได้อย่างตรงจุดมากขึ้น