งานบริหาร โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่ พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้
วิพากษ์สรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ในพื้นที่พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1
ประชุมวิพากษ์สรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการหารือแนวทางการดำเนินงาน ร่วมระดมความรู้ และข้อเสนอแนะในการพัฒนางานในระยะต่อไป
ประชุมวิพากษ์สรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
ในพื้นที่พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1
ในระหว่างวันที่ 22 - 23 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ณ ห้องประชุมโรงแรมวัฒนาวิลเลจ รีสอร์ท อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ตามที่ได้มีการประชุมติดตามผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานปัญหาและอุปสรรคของโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) และร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์อภิปรายผลการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ขยายผลสู่ชุมชน ตลอดจนวางแผนแนวทางการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2562 เมื่อระหว่างวันที่ 12 – 13 พฤศจิกายน 2561 ณ ณ ห้องประชุม ดีบูดี รีสอร์ท และห้องประชุมโรงพยาบาลยะหริ่ง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ผลจากการประชุมฯข้างต้นจึงเป็นที่มาของการประชุมวิพากษ์สรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการหารือแนวทางการดำเนินงาน ร่วมระดมความรู้ และข้อเสนอแนะในการพัฒนางานในระยะต่อไป โดยมีข้อสรุปที่สำคัญในการประชุมดังต่อไปนี้
1.ผลการประชุมสรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1
1.1โรงพยาบาลเทพา จังหวดสงขลา
โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้เก็บข้อมูลสถานะสุขภาพของประชากรในพื้นที่อำเภอเทพา พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประชากรผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว โรงพยาบาลได้พัฒนาระบบบริการสุขภาพของผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผ่านการจัดอบรมบุคลากร เจ้าหน้าที่ ใช้หลักการศาสนาบูรณาการร่วมกับกระบวนการรักษาทางการแพทย์ “บูรณาการวิถีพุทธและวิถีมุสลิม รุ่นที่ 1” จากผลการดำเนินงาน มีบุคลากรและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการอบรมคิดเป็นร้อยละ 83.5 ผู้เข้าอบรมเข้าใจในหลักการแนวคิดและหลักการศาสนาเพื่อนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รวมทั้งมีความตื่นตัวในการทำงานเชิงรุก นำเอาวิถีชุมชนมาปรับใช้ในการดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้การประเมินผลและติดตามใช้วิธีการถอดบทเรียนผ่านกระบวนการ Care Process ซึ่งระบบการประเมินผลและติดตามแต่เดิมนั้นเน้นการประเมินทางด้านร่างกายซึ่งแตกต่างจากระบวนการ Care Process
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน พบว่าบุคลากรยังขาดองค์ความรู้ ขาดประสบการณ์ วิสัยทัศน์ในการมองประเด็นปัญหาที่ไม่ครอบคลุมต้องอาศัยการจัดอบรมให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง
แนวทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 ดำเนินการรวบรวมข้อมูลปัญหาและอุปสรรคในปีที่ผ่านมาทำเป็นคู่มือการพัฒนาระบบการบริการผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เก็บข้อมูล เชิงลึกจากผู้ปฏิบัติงาน ผู้ป่วย และญาติผู้ป่วย รวมทั้งวางแนวทางขยายผลการดำเนินงานลงสู่พื้นที่ชุมชน
1.2โรงพยาบาลสตูล จังหวัดสตูล
โรงพยาบาลสตูลเป็นโรงพยาบาลนำร่องภายใต้โครงการของสถาบันวิจัยระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (สจ.รส.มอ.) มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นำผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา มีกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรม รวมทั้งสิ้น 11 โครงการ
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา นำแนวคิดและหลักการศาสนามาปรับใช้กับระบบการบริการสุขภาพ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย บุคลากรและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล อาทิ ศาสนาอิสลาม มีการเปิดเสียงอาซานให้ผู้ป่วยสามารถได้ยินชัดเจนเมื่อถึงเวลาปฏิบัติศาสนกิจ มีห้องละหมาด ในช่วงเดือนรอมฎอนจะมีการบอกเวลาละหมาด/ละศีลอด ขายอาหารซะโฮร์ จัดให้มีอาสาสมัครอ่านยาซีนเพื่อสร้างความสงบและสบายใจให้แก่ผู้ป่วยรวมถึงญาติผู้ป่วย ฯลฯ ในส่วนการดำเนินงานของศาสนาพุทธ ทางโรงพยาบาลได้ทำการนิมนต์พระภิกษุเพื่ออ่านพระสูติให้ผู้ป่วยฟังสร้างความสงบและสบายใจ การตักบาตรในตึกอาคารผู้ป่วยใน เป็นต้น เป็นแนวทางการดำเนินงานที่เน้นรักษาและฟื้นฟูสภาพจิตใจควบคู่กับสภาพร่างกาย ในกรณีที่ผู้ป่วยเสียชีวิตทางโรงพยาบาลมีการแจกผ้าขาวห่อศพ ผ้าแพรคลุมศพ ตลอดจนส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา มีชมรมศาสนาพุทธและชมรมศาสนาอิสลามของโรงพยาบาล อำนวยความสะดวกในการประสานงาน
แนวทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 ขยายผลการดำเนินงานสู่ชุมชน ดำเนินโครงการอบรมเจ้าหน้าที่และบุคลากรของโรงพยาบาลให้มีองค์ความรู้ในการดำเนินงานบริการสุขภาพให้สอดคล้องกับพื้นที่พหุวัฒนธรรมรุ่นที่ 2 จัดระบบการประเมินผลและตัวชี้วัดของโครงการให้มีรูปแบบที่ชัดเจน จัดทำสื่อสาธารณะประชาสัมพันธ์กิจกรรมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการเข้ามาพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
1.3 โรงพยาบาลยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
ดำเนินกิจกรรม 1.จัดเวทีชุมชน 2.อบรมหลักธรรม และ 3.Smart Kids ผลการดำเนินงาน ที่ผ่านมา ลงพื้นที่จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ได้ผลสรุป คือ ประชาชนต้องการบริการที่เน้นการดูแลที่เข้าถึงชาวบ้าน เป็นกันเอง ให้เกียรติและมีทัศนคติ การบริการเชิงบวก จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างผู้รับบริการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาทิ กิจกรรมการกวนอาซูรอ ซึ่งจัดให้มีการทำร่วมกันทุกปี ในปีนี้จะมีนักศึกษาจากอินโดนีเซียเข้าร่วมการกวนอาซูรอด้วย ด้านการเข้าถึงการบริการ โรงพยาบาลจัดระบบการบริการแบบ One Stop Service โดยมีช่องทางพิเศษเพื่อให้บริการแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็ก ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการเข้ารับบัตรคิวให้มีช่วงระยะเวลาเพิ่มขึ้น การให้บริการผู้ป่วยดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพของเจ้าหน้าที่ “แนวคิดนางฟ้าพยาบาล” บริการด้วยรอยยิ้ม สวัสดีทักทายให้สลาม บริการดี มีความสุข มีจิตอาสาในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งเผยแพร่ข้อมูลและองค์ความรู้ให้แก่ผู้เข้ารับการบริการ รวมถึงจัดทำช่องทางการสื่อสารความเสี่ยง ประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย จัดทำสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในประเด็นสถานการณ์ระบบสุขภาพในพื้นที่ การแพร่ระบาดของโรค และประเด็นสิ่งแวดล้อมกับระบบสุขภาวะ
แนวทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจ จัดเวทีสำรวจความคิดเห็นเพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงาน รับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน ผู้รับบริการ และนำมาปรับปรุงต่อยอดการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่พหุวัฒนธรรมอำเภอยะหริ่ง
1.4 โรงพยาบาลธารโต จังหวัดยะลา
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา เน้นจัดระบบบริการสุขภาพให้สอดคล้องกับสังคมพหุวัฒนธรรม เชื่อมโยงให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทในการนำเสนอและกำหนดนโยบายการดำเนินงาน โดยจัดกิจกรรมประชุมคณะกรรมการสภาพหุวัฒนธรรมที่ประกอบไปด้วย ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ตัวแทนภาคประชาสังคม ตัวแทนภาคการศึกษา และชาวบ้านเข้าร่วม จัดกิจกรรมอำเภอยิ้ม จัดกิจกรรมอบรมและพัฒนาศักยภาพผู้รับผิดชอบงานอนามัยแม่และเด็กแก้ไขปัญหาพัฒนาการไม่สมวัยซึ่งเป็นปัญหาที่โรงพยาบาลต้องเร่งแก้ไข อบรมและถอดบทเรียนการดูแลสุขภาพเด็กตาดีกา พัฒนาระบบสุขภาวะและพัฒนาการสมวัยตามแนวทางศาสนา “กิน เล่น สอน กวดขัน และปฏิบัติ” ดำเนินการผ่านภาคีเครือข่ายผู้นำศาสนา รวมถึงอบรมผู้ปกครองให้มีความรู้ มีทักษะการดูแลสุขภาพควบคู่กับการนำแนวทางศาสนาเข้ามาปรับใช้ ด้านการเข้าถึงการบริการ พัฒนาระบบทันตสุขภาพ โภชนการ และเสริมความรู้ผู้ปกครอง โดยมีตัวชี้วัดเด็กผ่านเกณฑ์ การพัฒนาสุขภาพร้อยละ 80 ผู้ปกครองมีทัศนคติการดูแลสุขภาพในการดูแลบุตรหลาน มุมมองต่อการดูแลสุขภาพตามหลักการศาสนาเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาวะภายใต้บริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม ในกลุ่มประชากรที่เป็นเยาวชนวัยเรียน ดำเนินงานผ่านคณะกรรมการสภาพหุวัฒนธรรมจัดอบรมความรู้การดูแลสุขภาพ รวมถึงหลักการสร้างครอบครัว สำหรับนักเรียนมัธยมปลายในสถานศึกษาเอกชนสอนศาสนา และสถานบันการศึกษาปอเนาะ
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพบปัญหาการเชื่อมโยงการทำงานกับพื้นที่ยังขาดความ ทำให้ผลลัพธ์ยังไม่เกิดเป็นรูปธรรมชัดเจน การติดตามและประเมินผลยังไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จำเป็นต้องมีระบบการติดตามและประเมินผลเชิงลึกที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
การดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 เติมเต็มการพัฒนางานอนามัยแม่และเด็ก จัดระบบการติดตามและประเมินผลเชิงลึกในพื้นที่ โดยเน้นความครอบคลุมและทั่วถึงเป็นสำคัญ จัดระบบบริการสุขภาพของโรงพยาบาลตามแผนกต่างๆให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่พหุวัฒนธรรม เพื่ออำนวยความสะดวก และจัดบริการที่สอดคล้องกับหลักการศาสนา
1.5 โรงพยาบาลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา จัดโครงการอบรมแกนนำบุคลากรสาธารณสุข เพื่ออบรม สุขภาวะตามแนวทางวิถีมุสลิมและวิถีพุทธ เชิญผู้นำศาสนาเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการดำเนินงาน การขับเคลื่อนประเด็นอนามัยแม่และเด็ก ANC โครงการอบรมโรงเรียนพ่อแม่เพื่อการดูลูกหลังคลอด โดยการนำวิถีชุมชนแนวทางความเชื่อมาประยุกต์การวิถีทางการแพทย์ อาทิ การดูแลเด็กหลังคลอดของโต๊ะบีแดประยุกต์กับวิธีการทางการแพทย์สมัยใหม่ ประเมินผลด้วยตัวชี้วัดแบบสอบถามสำหรับผู้เข้าร่วมอบรม ด้านการเข้าถึงบริการ จัดกิจกรรม 3อ2ส เน้นการบริการที่คำนึงถึงความสะอาดและสิ่งแวดล้อมที่ดีเอื้อต่อการให้บริการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ชุมชนเพื่อสร้างต้นแบบสุขภาวะวิถีชุมชน ตลอดจนมีการประเมินภาวะอารมณ์ของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้บริการตั้งแต่เริ่มปฏิบัติงานจนถึงสิ้นสุดการดำเนินงานในแต่ละวัน เพื่อเป็นการนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไขกระบวนการให้บริการแก่ประชาชนต่อไป
2.ผลการวิพากษ์
2.1 ควรมีการพัฒนาระบบการให้บริการเพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว โดยการลดขั้นตอนการให้บริการ เช่น การจัดให้มีบริการแบบ one stop service โดยการอาศัยการช่องทางแงความเป็นพหุวัฒนธรรมเป็นตัวเชื่อมการให้บริการทั้งเชิงรูปธรรมและนามธรรมเชิงประจักษ์
2.2 ควรพัฒนารูปแบบหรือจัดทำแนวทาง เพื่อให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาแก่ผู้รับบริการ รวมทั้งจัดหาสื่อที่จำเป็น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น ความรู้เรื่องไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ให้เป็นสื่อที่เข้าใจจ่ายและเหมาะสมทุกช่วงวัย
2.3 ปรับปรุงการชี้แจงขั้นตอนการให้บริการในโรงพยาบาล โดยจัดทำขั้นตอนการให้บริการ ที่ชัดเจน จัดทำป้ายบ่งชี้ห้องต่างๆ ในการให้บริการและมีประชาสัมพันธ์ในโรงพยาบาลในการให้คำแนะนำต่างๆ แก่ผู้รับบริการ (ภาษามาลายูท้องถิ่น)
2.4 พัฒนารูปแบบการประเมินความพึงพอใจ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและรวดเร็ว โดยจัดสถานที่ในการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ เพื่อให้ผู้รับบริการตอบหลังจากเสร็จสิ้นการรับบริการตรวจสุขภาพ
2.5 มีข้อเสนอแนะให้โรงพยาบาลเครือข่ายจัดกิจกรรมโดยให้มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของโครงการฯ
2.6 ควรดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในชุมชน เช่น ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ภาคประชาสังคม ฯลฯ เพื่อให้เกิดการบริการแก่กลุ่มเป้าหมายได้ตรงความต้องการของบริบทในแต่ละพื้นที่
2.7 ควรมีรูปแบบการประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานโครงการฯที่เป็นมาตรฐาน และเป็นลายลักษณ์อักษรเชิงวิชาการ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- นายสุเทพ วัชรปิยานันทน์ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
- นายประเวศ หมีดเส็น ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12
- นางสาววราภรณ์ เส็นสมมาตร นักวิชาการสาธารณสุข สำนักงานเขตสุขภาพที่ 12 สงขลา
- นายพัสสน หนูบวช นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ศูนย์บริหารการพัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา
- นายธีรพงศ์ งามพร้อมวงษ์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ศูนย์บริหารการพัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา
- นางสาวพิชญ์สินี บุญยอด นักวิชาการสาธารณสุข ศูนย์บริหารการพัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา
- นายประเวศ หมีดเส็น ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี