พัฒนาเครือข่ายสื่อสาธารณะ
1.เพื่อจะได้ปรับตัวและเตรียมพร้อมให้อยู่รอดปลอดภัยจากภัยพิบัติที่จะเกิดในปัจจุบัน และอนาคต 2.เพื่อรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นมีสติพร้อมจะเผชิญกับทุกเหตุการณ์ทีเกิดขึ้น ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาวการณ์ใดๆ
1.ติดต่อประสานพื้นที่และตัวแทนฝายมีชีวิตที่จะเข้าร่วมพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นที่วางไว้ 2.ลงพื้นที่เพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยน เสนอความคิดเห็นในประเด็นบทเรียนจากภัยพิบัติ ทำอย่างไรให้อยู่รอด 3.ถ่ายทอดสดผ่านทางเพจ สมาคมสื่อชุมชนภาคใต้ นครศรีธรรมราช
บทเรียนจากภัยพิบัติ เราจะรับมือเพื่อให้เราอยู่รอด ปลอดภัยได้มากที่สุดได้อย่างไร : จากประสบการณ์ที่ผ่านมาจำต้องนำมาถอดบทเรียนเกี่ยวกับภัยพิบัติ ประชาชนส่วนมากจะตกใจมากเกินไป จึงทำให้เป็นการสร้างภาพในแง่ที่น่ากลัว สร้างภาพจำ นอกจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นแล้วยังมีอย่างอื่นที่ตามมาคือ ในแง่ของงบประมาณ มีภัยพิบัติ งบประมาณก็ตามมา การอยู่รอด ปลอดภัยในการับมือภัยพิบัติจะส่งผลบวกหรือลบ หรือได้ประโยชน์กับใคร ใครเป็นคนทำให้เกิดภัยพิบัติ จากเหตุการณ์ย้อนหลังที่ผ่านมา เริ่มจากประเทศไทยหมูป่าติดถ้ำ 13 คน ใช้เวลาในการช่วยเหลือเกือบ 1เดือน แต่รอดมาได้ สิ่งที่เราเห็นคือความทุกข์ ทรมาน หลังจากนั้นประเทศญี่ปุ่น คลื่นความร้อน 41องศาเซลเซียล ประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถัดมาประเทศลาว เขื่อนแตก ประเทศพม่า เหมืองหยกถล่ม ทั้งหมดเหล่านี้คือบทเรียนภัยพิบัติ
จากการพูดคุยได้มุมมองใน 2 แง่ คือ นิเวศคือบ้านของน้ำ การผสมผสานจากสิ่งที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน เริ่มตั้งแต่สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ประชาชนสามารถจัดการตนเองได้ ทั้งหมดเหล่านี้จากประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่ผ่านมา สามารถทำให้คนตื่นรู้ ตื่นตัว และะรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างปลอดภัย กรณีที่ประเทศลาว เขื่อนแตกนั้น ทำให้ประเทศของเราได้สร้างวิกฤตให้เป็นโอกาส ถ้าเราไม่สร้างเขื่อนแต่เราได้ใช้น้ำจากระบบนิเวศด้วยการสร้างฝายมีชีวิต ก็จะทำให้เราได้มีน้ำใช้กันตลอด และลดการเกิดภัยพิบัติได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
1.เครือข่ายฝายมีชีวิต 2.เครือข่ายสื่อสร้างสุขภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช 3.สมาคมสื่อชุมชนภาคใต้ นครศรีธรรมราช 4.บุคคลทั่วไปที่รับฟังและติดตามชมผ่านทางเพจสมาคมสื่อชุมชนภาคใต้ นครศรีธรรมราช
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี