พัฒนาเครือข่ายสื่อสาธารณะ

สนับสนุนเครือข่ายกขป.เขต 11 สุราษฎร์ธานี22 มกราคม 2561
22
มกราคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย วิลาสลักษณ์ แก้วบุญเรือง
circle
วัตถุประสงค์

เพื่อเชิญชวนกลุ่มคนที่ทำงานทางสังคมมาร่วมเรียนรู้รากเหง้าประวัติศาสตร์ศรีวิชัยซึ่งเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและความรุ่งเรืองในอดีตที่มีพลัง คุณค่า ความหมาย มาปรับใช้ในการสร้างพลังทางสังคมและการขับเคลื่อนงานทางสังคมต่อไป

circle
กิจกรรมตามแผน

circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

“ เรียนรู้รากเหง้าประวัติศาสตร์ศรีวิชัย...สู่การสร้างพลังทางสังคม ”
เป็นการพบเจอกันของคน  3 วัย 3 รุ่น ร่วมเรียนรู้ learn how to learn and learn how to coach  หัวข้อที่เราจะร่วมสนทนา คือ ทำไมการศึกษาประวัติศาสตร์และคุณค่าความหมายของสังคม การเมือง วัฒนธรรมศรีวิชัย จึงมีความหมายในการสร้างขบวนการนักรบพลเมืองในภาคใต้  เราจะร่วมสนทนากันด้วยบรรยากาศแห่งเพื่อนมิตร  ครู ศิษย์  ผ่อนคลาย สบาย ๆ แต่ได้พลังสาระความรู้สู่การนำไปใช้ขับเคลื่อนงานทางสังคม  เริ่มต้นเปิดวงคุยโดยการให้ อาจารย์สมเจตนา  มุนีโมไนย  ช่วยเล่าประวัติศาสตร์ศรีวิชัย  นักรบไพร่วัด  สมัยพระเจ้าทรงธรรม  ต่อจากนั้นอาจารย์บุญธรรม  เทอดเกียรติชาติ  อาจารย์พิชัย ศรีใส  พี่ทวีศักดิ์  สุขรัตน์  รวมถึงพี่ ๆ ช่วยเสริมเติมเต็ม  โดยมีอาจารย์ชัยวัฒน์  ถิระพันธุ์  จะช่วยตั้งคำถามชวนให้พวกเรามองเห็นสิ่งที่มองข้ามไปเพื่อตั้งหลักอย่างมีสติก่อนจะเคลื่อนต่ออย่างมีพลังและร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้ง

circle
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

วันที่ 22  มกราคม 2560

ทำไมเราต้องมาพุดคุยกันเรื่องอาณาจักรศรีวิชัย สิ่งนี้มีความสำคัญกับเราอย่างไร และสำคัญกับอนาคตของเราภาคใต้อย่างไร?  โดยอาจารย์ชัยวัฒน์  ถิระพันธ์
พวกเราที่มีความตั้งใจอยากจะทำอะไรดี ๆเพื่อปักษ์ใต้บ้านเรา  การทำงานต่อสู้และการเคลื่อนไหวของเราในพื้นที่ภาคใต้หลายครั้งที่ผ่านมาเรามีการคิด ออกแบบ เขียนแผนยุทธศาสตร์  เป็นเรื่องที่ดีแต่มีบางอย่างที่เรามองข้ามไปแล้วทำให้การทำงานของเรามีข้อจำกัด  การทำงานของเราต้องกลับมาทบทวนใหม่  ต้องมาดูว่าเรื่องอะไรที่เราหลงลืมไป  เช่น รากเหง้า ภูมิปัญญา วัฒนธรรม  ความศักดิ์สิทธิ์หรือความคิดของบรรพบุรุษ  หากเราจะดูแลรักษาแผ่นดินและพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เราต้องหันกลับมาทบทวนใหม่  เป็นเรื่องคุณค่า ความหมาย และพลังของบรรพบุรุษที่ส่งผลมาถึงเรา ครั้งนี้เราจะชวนกับพูดคุยเรื่องศรีวิชัยและความเป็นนักรบศรีวิชัย  เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วเรารู้สึกอย่างไร  เรามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง
เมื่อพูดถึงเรื่องนักรบศรีวิชัย  หลาคนมองว่า - ศรีวิชัย  เป็นเรื่องอดีตที่น่าค้นหา  ทั้งประวัติศาสตร์  คุณค่า  ความศักดิ์สิทธิ์
- การที่เราหันกลับมาศึกษาเรื่องศรีวิชัย  ทำให้เราเห็นขุมพลังที่ทำให้เราฮึกเหิม
- การศึกษาเรื่องศรีวิชัย  เราจะเห็นบทเรียนในอดีตที่สามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานกับปัจจุบันได้  สามารถรับมือกับอนาคตได้ - การศึกษาเรื่องราวของศรีวิชัยช่วยทำให้เราทรนง  ภาคภูมิใจ  มีศักดิ์ศรี - การทำให้เราหันย้อนกลับมามองตนเอง    บ้านของเรา  สังคมของเรา  ทำให้เราเห็นตัวเราเองมากขึ้น  รู้สึกภาคภูมิใจ”เราคือคนที่ถูกเลือก” - การคุยเรื่องประวัติศาสตร์ทำให้เราเห็นร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตซึ่งเป็นสิ่งที่บอกให้เรารู้และมั่นใจได้ว่าสังคมอุดมคติที่เราอยากเห็น การเอื้อเฟื้อ  แบ่งปัน ช่วยเหลือกัน  ในอดีตเคยเกิดขึ้นแล้ว

ต้อนรับ ขับบทกลอนปลุกพลังคาถาคุณธรรมพระโพธิสัตว์และเส้นทางนักรบศรีวิชัย
โดยอาจารย์บุญธรรม  เทิดเกียรติชาติ  ปราชญ์ ศิลปินภาคใต้ ความแตกต่างระหว่างประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม  คือ  ประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งมีความเป็นมาชัด คุณค่าชัด  และวัฒนธรรมคือคุณค่าชัดแต่ความเป็นมายังไม่ชัด
พระโพธิสัตว์ปัตมะปานิ  เป็นรูปพระโพธิสัตว์ถือดอกบัว  ในอดีตพบที่เมืองเวียงสระซึ่งหายไปนานแล้ว แต่ปรากฎอยู่ในตัวหนังตะลุง
บทกลอนคาถาคุณธรรมพระโพธิสัตว์ปลุกใจนักรบศรีวิชัย
ออ ออ  ออ  ออ  ออ...... กล่าวคาถามาปลุกใจชาวศรีวิชัยทุก ๆ คน ปัจจานัง สิระสัง จะ ตัง อดทน นะกาโร  อ่อนน้อมถ่อมตน  สู่มรรคผลมีโชคชัย นัตถิ  สัมพะโว  ให้ชีวิตมีพลัง นารา นาจิตตัง  ให้ชีวิตมีพลังอันยิ่งใหญ่ เอวัง นะตะระ  เทโว หิ  สัมฤทธิชัย ทินจัง  นะรานัง  ให้พลังกาย จิตใจยั้งยืนยง
ตั้งสติและสัมมาสมาธิดังประสบ สุขตัง นังตันหะ  ดังพระโพธิสัตว์ประทับทรง แล นะจง ศรีวิชัย  ชนะให้ไปตามที่คอย ด้วยคุณธรรรมพระโพธิสัตว์ โบราณยังคงไว้  อันตรายก็จะไม่ท้อถอย ความสำเร็จเสร็จเมื่อไหร่ตั้งใจคอย ไม่ใจน้อยหรือใจร้อนทุกตอนไป ทำความดีไม่หวังผลตอบแทน  ไม่โลภ โกรธ หลง หวั่นไหว การคบคนไม่หวังผลประโยชน์ใด ไม่ทำตามเอาใจใครแต่ทำไปตามวิจารณญาณ ใครมีความปรารถนาจะร่วมหุ้น กับทรงคุณพระโพธิสัตว์  อันนี้เป็นบรรทัดฐาน นักรบศรีวิชัยครั้งสมัยโบราณ  ขอทุก ๆ ท่านจงกล้าหาญ  เอย แบบศรีวิชัย แล้ว .... ขอทุก ๆ ท่านจงกล้าหาญ ออ แบบศรีวิชัย....

สนทนาว่าด้วยเรื่อง “การศึกษาประวัติศาสตร์และคุณค่าความหมายของสังคมการเมือง วัฒนธรรมศรีวิชัย สู่การสร้างขบวนการนักรบพลเมืองในภาคใต้” อาจารย์ชัยวัฒน์  ถิระพันธ์
เมื่อนึกถึงเรื่องศรีวิชัยแล้วมามองการทำงานของเราที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นบางอย่างที่ขาดหายไปที่ทำให้พลังการต่อสู้ยังไม่มีพลังที่ยิ่งใหญ่พอ  การทำงานบางอย่างมีความท้าทายมากขึ้น  หลายเรื่องอาจจะต้องปรับปรุงให้เป็นคุณภาพใหม่  โดยเฉพาะการกำหนดยุทธศาสตร์และทำแผนทำอย่างไรให้มีคุณภาพ มีพลังและสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงได้ การเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ศรีวิชัย  เราจะชวนการค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่มีพลังในอดีต งดงาม  สังคมแงอุดมคติ แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง  ชุมชนแห่งสันติภาพ  สงบ สุข เราเคยมีชุมชนแบบนี้เกิดขึ้นแล้วในอดีต  ครั้งนี้เป็นการชวนคุยและชวนมองด้วยใจ ย้อยมองไปสู่อดีตศรีวิชัยเชื่อมโยงกับปัจจุบัน

      อาจารย์ปรีชา  อูยตระกูล  เสริมเรื่องเทพปกรณัม เทพปกรณัม  ในอดีตมีความเชื่อว่าเทพปกรณัมคือเทพที่คอยช่วยปกป้องรักษา หรือดลบันดาลให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น มีเรื่องราวและตำนานต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่นพระอิศวร    หรือแม้กระทั่งเจ้าป่าเจ้าเขาในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งคนในพื้นที่นั้น ๆ จะให้ความเคารพมาก  บางครั้งต้องทำพิธีเพื่อทำความเคารพ  เป็นเรื่องวิถีชีวิตและการดำรงอยู่เอความสุขและให้กำลังใจ

วันที่ 23  มกราคม 2560 เกริ่นนำโดยอาจารย์ชัยวัฒน์  ถิระพันธ์ การทำงานเพื่อสังคมเราต้องใช้พลังพลังความกล้าหาญ  พลังทางปัญญา  ความเมตตา  ไม่ใช่เพียงการไปประชุมในเวทีต่าง ๆ ตามสิ่งที่เขาเชิญเท่านั้น  พวกเราจำนวนมากทิ้งเวลาไปกับการประชุมแบบเดิม ๆ แต่ขาดการยกระดับเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีความล้ำค่า  เราจะทำอย่างไรให้มีความล้ำค่า เมื่อเราเจอสถานการณ์ที่มีความยาก เราจะทำตัวอย่างไร คือความท้าทาย  เราจะมีปัญญาการปฏิบัติการ  เพราะเมื่อถึงเวลาเราจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทัน ดังนั้นเราจำเป็นต้องฝึกให้เป็นนิสัย  รู้จักการครุ่นคิด  มีสติ  เราจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการตั้งสติ ใคร่ครวญ เราร่วมกันนั่งสมาธิภาวนานำภาวนา โดยคุณทวีศักดิ์    สุขรัตน์ การภาวนา....เริ่มจากการตั้งจิตของราให้มีความสงบ  ใช้มือขวาทับมือซ้าย  ใครถนัดสมาธิแบบลืมตาก็สามารถลืมตาได้ แต่หากใครถนัดหลับตาก็หลับตา  สำหรับผมเองใช้วิธีการหลับตา เพราะรู้สึกสงบ  จากนั้นหายใจเข้า ออก  ให้รู้สึกตัวว่าเราหายใจเข้า ออก  แล้วตามลมหายใจ เข้า  ออก  ยาว  สั้น  จากนั้นขอให้เราทุกคนร่วมปฏิบัติสมาธิภาวนา  ประมาณ 5 นาที

คุณทวีศักดิ์  สุขรัตน์  การเคลื่อนด้วยสติ สมาธิ ถือเป็นปัญญาญาณ ทำให้จิตมีพลัง อาจารย์ณัฐพงศ์  จิตนิรัตน์  ได้มีโอกาสดูบรรยากาศยามเช้า สวยงามมาก แต่เมื่อลองเปิดประตูด้านหลังกลับพบว่าด้านหลังมีคลองมีต้นไม้  มีธรรมชาติที่สวยงามมาก  ทำให้เกิดความรู้สึกว่าบางครั้งการที่เรามุ่งไปข้างหน้าแต่เรามักจะลืมดูข้างหลังที่สวยงาม  ดังนั้น  เราต้องหันกลับมาดูข้างหลังด้วยก่อนการก้าวต่อไปข้างหน้า คุณซิกส์  ได้ทบทวนตัวเองและพยายามตีโจทย์การเรียนรู้ตั้งแต่เมื่อวานว่าเรากำลังมาทำอะไร ?เรามาเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องศรีวิชัยซึ่งไม่ค่อยได้มีโอกาสเรียนรู้  ถือเป็นเรื่องที่มีความแปลกใหม่  แต่รู้สึกว่าการเรียนรู้ครั้งนี้เป็นการเรียนรู้เพื่อให้เราดึงคุณค่าที่มีอยู่เพื่อให้เราดึงเอาพลังคุณค่านั้นไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของเรา  การปฏิบัติภาวนาทำให้เกิดความสงบ มีสติ สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น หมอสุภัทร์  ฮาสุวรรณกิจ  ได้ทบทวนตัวเองว่าในช่วงที่ผ่านมาเราจะไม่ค่อยได้ฟังใครมาก เพราะส่วนใหญ่จะถูกเชิญไปให้พูด  ไปเป็นวิทยาการ  ไปร่วมนำกระบวนการเสียส่วนใหญ่  จึงไม่ค่อยได้ฟังมากนัก  ครั้งนี้ได้มานั่งฟังจริง ๆ  เมื่อตั้งใจฟังจริง ๆ ที่ไม่ได้รับรู้พียงเรื่องเล่า  รู้สึกว่าตัวเองได้อะไรเพิ่มขึ้น อาจารย์บุญธรรม  เทอดเกียรติชาติ  โดยส่วนใหญ่ความเป็นมนุษย์มีสามความรู้สึกหลักคือ  ฮึกเหิม  เฉย ๆ และเศร้าซึม  ในยุคนี้หากเราประคับประคองตนเอง  สติ  ให้มีความมั่นคง สงบ  จิตก็จะมีพลัง  ยกสิ่งที่ได้เรียนรู้ได้พบเห็นขึ้นมาเป็นความรู้ใหม่ซึ่งจะเป็นความรู้ที่มีปัญญา คุณทวีวัตร  เครือสาย  ในการทำงานเราต้องตั้งสติให้ดีเพราะจะมีสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดเข้ามาทำให้การทำงานไม่ราบรื่น  ซึ่งในการทำงานจริงนั้นเราต้องพบเจอกับสิ่งที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้เสมอ  ครั้งนี้ดีใจที่ได้เจอมิตรที่ดีที่เราห่างหายกันไปนาน  ถือเป็นโอกาสที่ดีในการทำงานต่อไป  ช่วงหลังมานี้ไม่ได้มีโอกาสไปร่วมงานกับใครมากนัก  จะไปเท่าที่จำเป็นเพราะอยากจะทำงานอยู่ในพื้นที่ในท้องถิ่น  มาครั้งนี้อยากจะมาร่วมฟังเรื่องราวความรู้จากทุกท่าน เพื่อได้มีโอกาสสั่งสมความรู้สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ อาจารย์ดำรง  โยธารักษ์ ได้ทบทวนว่าการทำงานที่ผ่านมาเรามีความเร่าร้อน เร่งรีบ กระวนกระวาย  เพราะเราใช้ความรู้ความชำนาญที่มีเป็นปรีชาญาณ ซึ่งสิ่งนี้เป็นขั้นแรก  การก้าวเดินของเราต้องมีศรัทธาหากเรามีศรัทธาเชื่อมั่นว่าเราจะก้าวเดินต่อไปได้อย่างมีพลัง คุณอานนท์  มีศรี  ช่วงที่มีการนั่งภาวนาตนเองลืมปิดโทรศัพท์  ในขณะที่นั่งภาวนาจึงมีความรู้สึกกังวลว่าจะมีสายโทรศัพท์เข้ามาแล้วจะทำให้ผู้อื่นเสียสมาธิและกลัวว่าอาจารย์จะดุทำให้ตนเองจดจ่อเพียงว่าเมื่อไหร่จะหมดเวลาเสียทีจะได้รีบปิดโทรศัพท์    หลังจากช่วงเวลาในการภาวนาจบลงรีบมาปิดโทรศัพท์และคลายความกังวลไปมาก  ก่อนมาเข้าร่วมครั้งนี้กังวลว่าตนเองจะได้มาหรือไม่เพราะมีภารกิจมากและโดยส่วนตัวรู้ตัวเองดีว่าขาดวินัยในเรื่องเวลาแต่พยายามปรับปรุง  ครั้งนี้จึงจะลองปิดโทรศัพท์ในระหว่างการประชุมแต่ยังมีความกังวลอยู่บ้างว่าอาจจะมีใครโทรประสานงานไม่ได้  แต่ก็จะทดลองปิดดู คุณปิยนาถ  ประยูร  ช่วงเช้าได้ทบทวนเรื่องวัฒนธรรม  ซึ่งมองว่าเรื่องวัฒนธรรมเป็นเรื่องที่สร้างได้  ที่ผ่านมาได้ทำงานและฝึกฝนตนเองจากการติดตามสังเกตการทำงานของอาจารย์  พบว่าการสนทนาบางครั้งมีคลื่นพลังที่ดี  แต่บางครั้งคลื่นพลังมีน้อย  ความน่าสนใจคือเราจะพบพลังบางอย่างที่เรามองไม่เห็นแต่เราสัมผัสได้ว่ามีพลังเรารู้สึกได้  ในการทำกระบวนการเราจะช่วยกันสร้างสนามพลังร่วมให้เกิดขึ้นได้อย่างไรในวงใหญ่  ซึ่งทุกคนในวงสนทนาจะสามารถร่วมกันสร้างคลื่นพลังนั้นให้เกิดขึ้นได้    อีกประเด็นคือเรื่องการสร้างวัฒนธรรมในการประชุม การอยู่ร่วมกัน  ตั้งแต่การเข้าร่วมสนทนา เราเป็นอย่างไร เพื่อนเป็นอย่างไร  เราจะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมในการสนทนาที่เรามีท่าทีที่เหมาะสม  เพื่อนก็สามารถสัมผัสได้  แม้ว่าผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมกระบวนการของอาจารย์ช่วงหลังก็จะเห็นว่าเขาสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมในการสนทนาได้เร็วและดีมากขึ้น  ซึ่งคนที่เข้ามาใหม่จะสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมการสนทนาของกลุ่มได้  เขาจะรู้ว่าหากเป็นกลุ่มนี้เขาต้องปฏิบัติตัวในลักษณะนี้วิธีการสนทนาเป็นไปในลักษณะนี้  ซึ่งเราจะสัมผัสได้ คุณหนูพียร  แสนอินทร์    นึกถึงเรื่องเทพปกรณัม    เพราะอาจารย์พูดถึงเรื่องนี้บ่อย  มีความสนใจในเรื่องนี้ซึ่งจะได้มีโอกาสศึกษาต่อ อาจารย์ปรีชา  อูยตระกูล  เราเป็นผู้รับพลังจักรวาลมาสู่ตน  หลายครั้งมีกลุ่มคนที่คอยทำพิธีการต่าง ๆ เพื่อติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ  เช่น เฒ่าจ้ำ  ซึ่งเป็นคนทำพิธีกรรมติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของทางภาคอีสาน  เขาก็จะมีความเชื่อบางอย่างในการทำให้เกิดพลังความศักดิ์สิทธิให้เกิดขึ้น  และกลายเป็นความเชื่อความศรัทธาของคนในชุมชน  ซึ่งพลังแห่งอดีตนั้นมีอยู่แล้วเราเป็นผู้รับพลังจักรวาลมาสู่ตนเพื่อกระทำการบางอย่างต่อไป
อาจารย์นิวัตร์  โอ้เต้กิ้ม  เชื่อมั่นว่าความศักดิ์สิทธิมีอยู่จริง  พื้นที่ศรีวิชัยเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิที่มีความสำคัญเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ทางวัฒนธรรม  ครั้งนี้เราจะได้มีโอกาสลงพื้นที่เพื่อสัมผัสพลังความศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่  ตนเองมีความสนใจว่าเราจะนำเอาความศักดิ์สิทธิ์มาปกป้องบ้านเราอย่างไร  ซึ่งจะต้องคิดหาหนทางกันต่อไป

อาจารย์ชัยวัฒน์  ถิระพันธ์  ชวนคิดชวนคุยต่อ เมื่อวานเราสัมผัสได้ว่าเรื่องที่เรากำหนดไว้ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้  พลังกระจัดกระจาย มีแต่ความกังวล  ไม่สมหวังไม่ได้ดังใจ  แต่เราพยายามจูลคลื่นพลังขึ้นมาใหม่  ปรับใหม่ เพื่อสร้างพลังขึ้นมาใหม่  ช่วงที่อาจารย์บุญธรรมได้กล่าวบทคาถาปลุกใจและบทพระโพธิสัตว์  เราจะเห็นได้ว่าพลังเริ่มก่อตัวขึ้นมา  จากความสับสน  หดหู่  สิ้นหวัง  เราค่อย ๆ ฟอร์มพลัง ความรู้สึก สภาวะ ขึ้นมาใหม่  จัดคลื่นพลังใหม่  จัดระเบียบคลื่นพลัง  วันนี้การสนทนาของเราก็เริ่มมีพลังมากขึ้น เราทุกคนรู้สึกได้ อาจารย์ปรีชาพูดถึงเรื่องเฒ่าจ้ำ  ซึ่งมีความน่าสนใจ  เราเป็นเพียงคนส่วนน้อย  แต่หวังว่าคนส่วนน้อยที่มีพลังจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้เป็น  Power of action ที่สามารถผูกโยงความหวัง กำลังใจ ความตั้งใจของผู้คนเข้ามา  โดยส่วนตัวรู้สึกว่าคนจำนวนไม่น้อยกำลังสิ้นหวังและกำลังรอคอยความหวัง  แต่คนไทยมีความเฉพาะที่น่าสนใจคือในท่ามกลางความสิ้นหวังคนไทยยังสามารถยิ้มได้หัวเราะได้  ไม่ถึงขั้นล้ม  แม้ไม่มีความหวังแต่ก็ยังไม่ทั้งสิ่งที่หวังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แต่ความฮึกเหิมมีน้อยลง  สมาธิจิตความมุ่งมั่นมีน้อยลง  คนจำนวนมากกำลังรอความหวังซึ่งความหวังนั้นไม่ได้มาจากนักการเมืองหรือใครอื่น  แต่ความหวังเหล่านั้นมาจากคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมั่นใจในความหวังของตนมากนัก ถึงเวลาแล้วหรือเปล่าที่เราต้องร่วมกันสร้างความหวังความมั่นใจให้คนเล็ก ๆ  จำนวนหนึ่งให้เขาได้มีความมั่นใจในสิ่งที่ตนเองทำและยกระดับต่อทำให้ดี มีพลังขึ้นกว่าเดิม  หากจิตบอกว่าเราคงทำได้ประมาณนี้ ทำให้รอด ๆ ไป  เราก็คงจะสามารถทำได้เพียงเท่านี้  แต่หากจิตคิดใหญ่กว่านั้นเราจะสามารถทำได้ใหญ่กว่านั้น  เรามีบรรพบุรุษช่วยหนุนเสริมเป็นลมใต้ปีกที่คอยช่วยโอบอุ้มเรา  เหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจคือทหารอเมริกันมีอาวุธยุทธโทรปกรณ์เหลือคณานัปซึ่งไม่เคยมีใครคิดว่าทหารเวียดกง เวียดนามจะสู้เขาได้แต่เขาก็สู้ได้จากกองกำลังเล็ก ๆ มีปืน  ดาบ ปืนพก  ซึ่งมีอาวุธจำนวนน้อยเป็นกองกำลังเล็ก ๆ แต่ก็เติบโตขึ้นจนสามารถตั้งกองกำลังต่อสู้กับเอมริกาได้  ทำไมเขาจึงสู้ได้  หรือแม้กระทั่งทหารไทยเองก็มักจะมีของขลังเพื่อสร้างความฮึกเหิม  มนุษย์เรานั้นมีความมหัศจรรย์ภายในบางอย่างที่สามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้
คนใต้นั้น ไม่ใช่เพียงไม่รบนายไม่หายจน  การสู้รบครั้งใหม่ไม่ใช่การสู้รบด้วยอาวุธแต่การสู้รบครั้งใหม่เราต้องใช้ปัญญา  ความรัก ความเมตตา  ความกล้าหาญ  อาจจะถึงเวลาที่เราต้องเลือกทางเดินที่ไม่มีคนเดินเมื่อเราเดินไปก็จะเริ่มมีทางแล้วสักวันจะมีผู้เดินตามมา  ทางนี้อาจจะไม่มีคนเดินแต่เราจะต้องเดิน  เราอาจจะได้รับการฝึกฝนในการทำงานด้วยหลักการ ทฤษฎีและเทคนิคต่าง ๆ ทั้งเรื่องการสนทนา การสร้างสนามพลัง  หรืออื่น ๆ อีกมากมายแต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้ผสานเชื่อมร้อยเข้าด้วยกัน
เมื่อเราไม่สามารถฝากความหวังไว้กับนักการเมืองได้แล้วเราจะอยู่อย่างไร  อยู่เพียงให้มีชีวิตรอดไปวัน ๆ เท่านั้นหรือ  หรือเราจะใช้ชีวิตอย่างสง่างาม  เกิดมาชาตินี้เราจะเต็มที่  เมื่อวานมีคนพูดว่า เราคือผู้ที่ถูกเลือกเพื่อให้เรามาทำภารกิจบางอย่าง  ทำให้เรามีความฮึกเหิม การทำให้คนรุ่นใหม่รู้ตัวตน  เข้าใจสังคม และมีพลังฮึกเหิมจะทำให้เขาสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะต่อไปจะเป็นยุคของพวกเขาซึ่งมีภารกิจบางอย่างที่จะสานต่อในสิ่งที่คนรุ่นก่อนยังทำไม่จบ  แต่สำหรับอาจารย์เองจะรบเดินเคียงข้างจนนาทีสุดท้าย  และเมื่อต้องรบเคียงข้างกันแล้วเราก็จะเดินไปด้วยกันเพราะเราถูกเลือกแล้ว
การต่อสู้ เราจะรู้ว่าตัวเองแน่หรือไม่เราต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรี  เราจึงจะภูมิใจในการชนะที่ข้ามผ่านมา  ในสนามรบเราอาจจะไม่สามารถควบคุมอะไรได้แต่เราต้องมีสติเพื่อการก้าวผ่านพ้นไปอย่างมีสติ  มองอย่างรอบด้านเห็นเหตุการณ์ สถานการณ์ ตรงหน้าแล้วพลิกให้เป็นพลัง  นำไปสู่การแก้ปัญหาและก้าวต่อให้เป็นพลัง  ไม่หวั่นไหว มีความหวัง กล้าหาญ  เราอย่ารอปาฏิหาริย์แต่เราต้องเป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์  มีพลังแห่งการครุ่นคิด ใคร่ครวญ การสนทนาของเราแต่ละครั้ง แต่ละเวที  เราต้องจัดท่าทีใหม่ จัดคลื่นพลังใหม่  เกิดประโยชน์สร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริงไม่ใช่เพียงการสร้างภาพไปเวทีแล้วถ่ายภาพส่งถึงกันเท่านั้น  สิ่งที่อยากชวนคิดต่อคือเราจะทำอย่างไรให้การสนทนาหรือการพบเจอกันของเราแต่ละครั้งให้เกิดเป็นสภาวะแห่งปัญญาเป็นคลื่นพลังที่มีคุณภาพ

ช่วงแบ่งกลุ่มย่อย แลกเปลี่ยนสิ่งที่ฉุกคิดใหม่ กระบวนการแบ่งกลุ่มย่อย 2 กลุ่มแล้วแต่ละกลุ่มร่วมสนทนาการเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วแบ่งปันให้เพื่อนในกลุ่มได้รับทราบ สรุปแบ่งปันการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น - ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์  สามารถปลุกให้เราลุกขึ้นสู้ด้วยความฮึกเหิมได้ - ความเชื่อ ศรัทธา จะนำมาสู่ความรัก หวงแหนแผ่นดินเกิด  เคารพในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ - การสร้างประวิติศาสตร์สามัญชนจะสามารถสร้างความรักความภูมิใจในแผ่นดิน  เราต้องใส่ใจกับประวัติศาสตร์สามัญชนแล้วนำมาเป็นพลังเพื่อร้อยคนเข้าร่วมปกป้องแผ่นดินเกิด - การจัดคลื่นพลังที่หลากหลายให้สามารถนำมาเคลื่อนร่วมกันได้เป็นศิลปะการทำงาน  เราต้องใช้คลื่นพลังที่ต่าง กระจัดกระจายมาจัดคลื่นพลังร่วมเพื่อทำงานร่วมกัน - การหันกลับมาทำงานเล็ก ๆ ในชุมชนมากขึ้น  แล้วนำเอาบทเรียนที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้จริงเพื่อสร้างรูปธรรมในพื้นที่เป็นเรื่องที่สามารถสร้างการยอมรับในการทำงาน
- การทำงานต้องมีการเรียนรู้สิ่งซึ่งมีบทเรียนสำคัญแล้วน้ำมาออกแบบสร้างสิ่งใหม่จากฐานทุนเดิมในชุมชน  สร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นแล้วรอจังหวะเวลาบ่มเพาะเพื่อให้การทำงานสามารถสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง - การเรียนรู้ประวัติศาสตร์  จะสามารถนำมาสู่การฟื้นพลังของตัวเราเอง ความคิด ความเชื่อศักดิ์ศรี การส่งทอดพลังของบรรพบุรุษมาสู่เราได้ - หลังจากพูดคุยรู้สึกว่าเสียดายเวลาที่เราอยู่ใกล้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แต่เราไม่ได้นำความศักดิ์สิทธ์นั้นมาใช้ให้เกิดพลังหรือสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพมากนัก - ได้มีโอกาสไปสถานที่เขาศรีวิชัยหลายครั้งและสัมผัสได้ถึงพลังความศักดิ์สิทธิ์ของที่นั่นทุกครั้ง - คนสมัยก่อนการได้ไปสัมผัสกับพื้นที่พบพลังความศักดิ์สิทธิ์เขาจะบอกว่าได้แรงอก  แต่ไม่รู้ว่าคนรุ่นเราจะได้แรงอกไหมหลังจากที่ได้ไปดูพื้นที่แล้ว - ปัจจุบันเป็นอย่างไรถ้าเราจะกำหนดอนาคตเราต้องย้อนมองอดีตด้วย
- ดีใจที่ได้เข้าร่วมสัมผัสกับอารยธรรมของบรรพบุรุษ - การลงพื้นที่ทำให้เราเห็นแล้วทำให้คิดว่า เรายังทำอะไรได้อีกมาก - ดีใจที่เราทุกคนมีความสุข

อาจารย์ชัยวัฒน์  ตั้งคำถามชวนคุยเพิ่มเติม การภาวนาไม่ใช่เพียงการนั่งนิ่งแล้วบริกรรมยุบหนอ  พองหนอ เท่านั้น  การภาวนาที่ง่ายจะ เกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราใส่ใจ  มีสติ  ตระหนักรู้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นข้างหน้าและเกิดขึ้นกับเรา  เชื่อว่าวันนี้เรามีความสุข  ทำไมเราถึงมีความสุข  บางคนอาจจะบอกว่าเราได้กลิ่นของอดีต  แต่เราเคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ว่าทำไมเราถึงมีความสุขแล้วความสุขนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
วันนี้ทำไมเราจึงมีความสุข - เราได้พบเจอ เรียนรู้ร่วมกันกับกลุ่มเพื่อนพี่น้องที่มีความคิด ความไว้ใจและผูกพันระหว่างกัน
- เราไปเดินในพื้นที่ที่เคยรุ่งเรือง มีอารยะมีพลัง ช่วยส่งพลังมาถึงเราด้วย
- ความสุข  เป็นเรื่องที่เราได้ปลดปล่อยเป็นอิสระออกจากความกังวล
- การได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนพี่น้องที่ต่างอาชีพ แต่ถูกคอ ถูกใจ  คุยกันรู้เรื่องคุยในสิ่งที่เราอยากคุย รู้สึกปลอดภัย เหมือนมีเพื่อนร่วมสุข ทุกข์
- การได้ลงไปเยี่ยมพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์  รู้สึกผิดที่เราไม่ได้ดูแล  ละทิ้งอารยะที่เราเคยมี  จิตใจของหลายคนเราลืมเรื่องเหล่านี้ไป เราควรต้องฟื้นสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างความรักชาติรักแผ่นดิน  ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเชื่อมสะพานระหว่างปัจจุบันและอดีตเพื่อตามหารากของเรา - เกิดการหยั่งรู้  นึกถึงคนในอดีตว่าเขาคงมีความสุขในการอยู่ร่วมกันในยุคนั้น  คนเรามีพลังงานและพลังเล่น  ซึ่งเราต้องผสานทั้งพลังงานและพลังเล่นเพื่อให้เกิดพลังที่สร้างสรรค์
- การได้ร่วมสนทนาในกลุ่มวงเพื่อนพ้องน้องพี่เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข  เป็นการเติมพลังและเป็นกำลังใจในการทำงานร่วมกันอย่างมีชีวิตชีวา

อาจารย์ชัยวัฒน์  ชวนมองเพิ่มเติม การร่วมสนทนาของเราถือเป็นการสานพลัง แต่เป็นการสานพลังที่เราไม่ต้องพูดว่าสานพลัง
เมื่อเราต้องทำกระบวนการเรื่องสานพลังต้องระมัดระวังให้มาก  ความลี้ลับและกุญแจอยู่ตรงไหนหาให้เจอ ทั้งความทุกข์ ความสุข เป็นพลัง แต่ความทุกข์เป็นพลังแห่งความโกรธ เกลียด  เป็นพลังแห่งการทำลาย  เราต้องร่วมกันสร้างพลังทางบวกที่ต้องใช้ความรัก ความเมตตา  พลังที่สร้างสรรค์  เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ กระบวนการเหล่านี้เราต้องใส่ใจ
วันนี้หากเราบอกว่าทำไมเราถึงมีพลังและมีความสุข  กุญแจสำคัญคือการที่เราได้เป็นอิสระ  มีอิสระจากความทุกข์ ความกลัว  หากอิสระขั้นสูงก็จะถึงขั้นหลุดพ้น  แต่เราคงพูดถึงความอิสระในระดับโลก ๆ การที่เราได้หัวเราะ สนุกแต่ไม่ใช่สนุกขำแบบตลกคาเฟ่  เราได้ปลดปล่อย  มีสติตระหนัก รู้  จริงใจ เป็นการภาวนาอย่างง่าย  เมื่อเราต้องอยู่ในหมู่มวลมิตร หากเรามีมวลมิตรมากทำให้เรามีพลัง  ไม่อ่อนแอ  แต่เรารู้สึกได้ว่าเรามีเพื่อนร่วมเดินทาง  เราล้วนเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยสภาวะต่าง ๆ  ทำให้เรามีพลัง  ทำไมบางครั้งการที่เรายืนมองทะเลหรือยืนบนยอดเขาแล้วเรามีความสุข เพราะจักรวาลนี้ยิ่งใหญ่และมีพลัง  เรารับพลังแห่งจักรวาลนั้นเข้ามาใส่ตัวทำให้เรามีพลังมากขึ้น  เปิดเข้าหาเพื่อนพี่ น้อง เพื่อนมนุษย์ จักรวาล ท้องฟ้า ทะเล  พลังของเราจะถูกส่งถึงกันไม่มีวันหมด  และในวันนี้เราสืบสายไปถึงพลังของบรรพบุรุษทำให้เรามีพลังเรารู้ว่าเราเป็นใคร เรามาจากไหน  เมื่อเรารู้รากที่หยั่งลึกเราจะมีความภูมิใจ  เป็นสภาวะที่เรามีความสามารถ มีพลัง  การพูดคุยเรื่องสานพลังต้องทำให้ลึกซึ้งและทำให้เห็นมิติต่าง ๆ
การมาเรียนรู้ครั้งนี้ เรากำลังท่องเข้าไปสู่การสนทนาบางอย่าง  บางเรื่องอธิบายในวันนี้อาจจะไม่มีประโยชน์  แต่เป็นพลังที่หลายคนสัมผัสได้  เราต้องไม่ลืมว่าการชวนคนไปหาปลา เราอย่าเพียงชวนเขาไปตัดไม้เพื่อต่อเรือแต่เราต้องชวนเขาเหล่านั้นให้ค้นหาความลี้ลับให้พบ  เพื่อให้เกิดพลังและเกิดประโยชน์สูงสุด

ช่วงค่ำ  วงสนทนาหลังรับประทานอาหารค่ำ ปลุกหัวใจคนด้วยพลังจิตวิญญาณบรรพบุรุษ    การค้นหาความลี้ลับมหัศจรรย์เราจับที่ใจของเรา  การกลับมาหาพลังของบรรพบุรุษคือความสุขและมีพลัง  การก้าวเดินแต่ละครั้งขอให้เรามีศักดิ์ศรีแล้วจะกลายเป็นความศักดิ์สิทธิ์  ไม่หวาดหวั่น  ไม่หวั่นไหว ขอพียงเราเคารพนอบน้อมกตัญญูต่อบรรพบุรุษแล้วจะมีพลังบางอย่างจากบรรพบุรุษที่โอบอุ้มเราเป็นพลังให้เรารักษาแผ่นดินต่อไป การร่วมสร้างชุมชนแห่งสำนึกอย่ารีบร้อน  เราต้องมีสติสร้างความร่วมมือกับกลุ่มคน  ชวนให้ชุมชนเห็นพลังของความลี้ลับมหัศจรรย์ นำพลังของบรรพบุรุษมาช่วยหนุนเสริมโอบอุ้มในการก้าวเดินของเรา  ขอเพียงเราหากุญแจความลี้ลับมหัศจรรย์ให้พบแล้วเราจะสามารถเชื่อมร้อยกลุ่มคนในสังคมเพื่อร่วมสร้างชุมชนแห่งสำนึกได้  สังคมใหม่อยู่ที่เราบ่มเพาะปัจจุบันดังนั้นเราต้องสร้างคนคุณภาพ มีปัญญาในวันนี้เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพ การสู้รบที่มีพลังต้องใช้ปัญญา ความรัก ความเมตตา  เพราะศึกครั้งหน้าใหญ่หลวงนัก  การสู้รบครั้งหน้าอาจจะเป็นการสู้รบครั้งสุดท้ายสำหรับบางคน  แต่การต่อสู้ครั้งหน้าจะไม่เหมือนเดิม การต่อสู้เราจะเห็นวิธีการที่แปลกใหม่มากขึ้น ไม่ใช่การเดินออกมาประท้วงแต่อาจจะมีการใช้สื่อมากขึ้น  ตัวละครที่จะเล่นก็มีมากขึ้น  พวกเราเป็นเพียงตัวละครหนึ่งในสนามรบเท่านั้น สิ่งที่เราน่าจะทำได้คือชวนเพื่อนมิตรหาแนวร่วมเพื่อร่วมรบ  เห็นศัตรูร่วมเราจึงจับมือกันรบ แต่การรบต้องสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างมีคุณภาพ  ซึ่งต้องใช้ทั้งฐานข้อมูล ความรู้  ปัญญา  และใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารและสร้างเครือข่ายที่มีพลัง
จัดระเบียบพลังที่กระจัดกระจายให้เป็นพลังร่วม สำหรับกลุ่มคนที่มีความตั้งใจดีหรือกลุ่มที่เรา กำลังเชื่อมสัมพันธ์อยู่นั้นต้องร่วมกันคิด ตั้งหลัก จัดระเบียบพลังที่กระจัดกระจายให้เป็นพลังร่วม  มุ่งพลังไปที่พลังของเรา  มีเวลาครุ่นคิด ใคร่ครวญ  สนทนากับตนเอง  ตั้งคำถามใหม่ ๆ ให้กับตนเอง  ซึ่งเราต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  ตัวเราเองทำงานไปก็ต้องเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่และสั่งสมความรู้  พลัง  เพื่อนำไปสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น รับมือกับสถานการณ์ที่ผกผันของโลกอนาคตได้ การตั้งคำถามง่าย ๆ  ช่วยให้เรากลับมามีสติอยู่กับตนเอง  “อะไรคือความสุข ทำไมเราถึงมีความสุข? การชวนคุยเรื่องความสุขเป็นการชวนพวกเราทุกคนให้หันกลับมาดูตนเอง ทบทวนตนเอง  มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ใคร่ครวญกับสิ่งที่เราพบเจอ  และให้เราได้เห็นว่าสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรานั้นล้วนมีพลัง  พลังต่าง ๆ อยู่รายรอบตัวเรา ความสุขอยู่ใกล้ตัวเรา  เพียงเราตั้งใจเปิดรับพลังที่อยู่รายรอบจะช่วยโอบอุ้มเรา  ความรัก ความอบอุ่นมีอยู่ทุกที่เพียงเราเปิดรับสิ่งต่าง ๆ ขอเพียงเราหาเวลาในการใคร่ครวญตนเองอยู่เสมอ เป็นความท้าทายที่ช่วยให้เราได้ตรวจสอบความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเราและให้เรารู้ตัวรู้ตนเข้าใจตนเองมากขึ้น ฟังเสียงตนเอง ฟังเสียงเพื่อน ทำให้เกิดปัญญาและเกิดความรู้ใหม่ การได้มีโอกาสตั้งใจฟังคำถามที่อาจารย์ได้ชวนคิดใคร่ครวญ  ทำให้เราแต่ละคนได้มีโอกาสฟังความคิดของผู้อื่นซึ่งแต่ละคนได้ตอบตามความรู้สึกที่เกิดขึ้น  เมื่อฟังคำตอบจากผู้อื่นแล้วกลับช่วยให้เราได้สัมผัสกับคำตอบของเราด้วยความรู้สึกของเราเองด้วย  การตั้งใจฟังอย่างลึกซึ้ง  ฟังเพื่อเข้าใจ  ใส่ใจ ทำให้เราได้ฟังเสียงตนเองขณะที่เราสนทนาซึ่งต้องมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ การสนทนาต้องนำไปสู่การสร้างคุณภาพใหม่    ทำให้เกิดปัญญาและเกิดความรู้ใหม่ ๆ  เราเป็นศิษย์และเป็นครูไปด้วยกัน การทำงานท่ามกลางความไม่สมบูรณ์  การทำงานของพวกเราที่ผ่านมาหลาย ๆ ครั้งเราจะพบกับความไม่สมบูรณ์แบบ  แม้ว่าบางเรื่องจะมีการเตรียมการเป็นอย่างดีแต่ก็มีปัญหาอุปสรรคเข้ามาขวาง  ดังนั้นการทำงานของเราต้องมีสติ  รู้จักพลิกแพลง  ยืดหยุ่น เราต้องอยู่ได้ท่ามกลางความไม่สมบูรณ์  อย่าปล่อยให้ความไม่สมบูรณ์ทำร้ายเรา  เราต้องเล่นกับสถานการณ์ที่เป็นจริง  อะไรจะเกิดเราห้ามไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้เกิด  แต่จงมีสติ ตั้งหลักให้ได้อย่าหวั่นไหวฝ่าข้ามไปให้ได้ท่ามกลางความไม่สมบูรณ์

วันที่ 24  มกราคม 2560 สมาธิภาวนา...สร้างสนามพลังแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน เช็คอิน  สนทนายามเช้า (กระบวนการ  ผู้เข้าร่วมที่อยากจะแบ่งปันการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น  บอกเล่าแบ่งปันให้เพื่อนได้รับทราบด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ) คุณปรีชา  อูยตระกูล  ฉุกคิดเรื่องการรบครั้งหน้า จะเป็นการรบครั้งสุดท้าย  ในฐานะนักรบที่อยากจะเห็นสิ่งดี ๆ เรารบอย่างต่อเนื่องเพื่อการเปลี่ยนแปลง  การรบของเรา...ไม่มีครั้งสุดท้าย คุณทวีศักดิ์  สุขรัตน์  สังเกตเห็นว่าการพุดคุยของพวกเราใช้ภาที่มีพลัง ปลุกเร้า ให้กำลังใจ  การรบครั้งสุดท้ายบอกให้เรารู้ว่าเราไม่มีเวลาอีกแล้ว  พลังทางจิตวิญญาณเป็นพลังแห่งกายที่สัมผัสได้จากสิ่งรอบข้าง  เราจะชนะ  ใจเราและสิ่งรอบข้างที่ดำลังเข้ามา คุณรัตนา  ชูแสง  ฉุกคิดเรื่องการรบครั้งสุดท้าย  มองว่าการรบครั้งสุดท้ายไม่ใช่การรบเพียงเพื่อเราอยู่รอดแต่การรบครั้งสุดท้ายเป็นการรบเพื่อปกป้องแผ่นดินทีมีเถ้าถ่านของบรรพบุรุษ คุณนิวัตร์  โฮ้เต้กิ้ม  เรื่องอะไรที่เราไม่รู้แต่มีสัญญาณบางอย่าง    การยังคงอยู่ของภูมินิเวศน์อันศักดิสิทธิ์  การสร้างเครือข่ายเล็ก ๆ ให้เติบโต  มีพลัง  มีความศักดิ์สิทธิ์ คุณบุญธรรม  เทอดเกียรติชาติ  เรื่องพิธีกรรมไม่ได้เป็นสิ่งที่มีอยู่เดี่ยว ๆ แต่มีความเชื่อมโยงกับจารีต  ปัจจุบันเห็นได้ว่าเรากำลังเลี้ยงลูกแบบนกกาเหว่า  ไข่ให้แม่กาฟัก  เราเองก็ส่งลูกไปให้โรงเรียนดูแลตั้งแต่เด็ก  อยากชวนมองเรื่

circle
กิจกรรมตามแผน
circle
ประเมินความสำเร็จของการดำเนินกิจกรรม

บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)

circle
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม
จำนวน 20 คน จากที่ตั้งไว้ 30 คน
ประกอบด้วย

1.สถาบันการเรียนรู้พัฒนาประชาสังคม 2.กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์ 3.หน่วยสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ของกลุ่มเยาวชน จ.สุราษฎร์ธานี 4.สมาคมสื่อชุมชนภาคใต้  นครศรีธรรมราช 5.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าใต้บน

circle
ปัญหา/แนวทางแก้ไข

ไม่มี

circle
ชื่อผู้ติดตามในพื้นที่ของ
-
circle
ข้อเสนอแนะต่อ

ไม่มี

circle
ข้อเสนอแนะต่อพื้นที่

ไม่มี