ผักปลอดสารพิษ ชุมชนพืชนิมิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ผักปลอดสารพิษ ชุมชนพืชนิมิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ข้อมูลโครงการ
ชื่อนวัตกรรม | ผักปลอดสารพิษ ชุมชนพืชนิมิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี |
สถาบันอุดมศึกษาหลัก | มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ |
หน่วยงานหลัก | สำนักส่งเสริมการเรียนรู้และบริการวิชาการ |
หน่วยงานร่วม | คณะเทคโนโลยีการเกษตร |
ชื่อชุมชน | ชุมชนพืชนิมิตร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี |
ชื่อผู้รับผิดชอบ | อาจารย์ศิริวิมล ศรีมีทรัพย์ |
ที่อยู่ผู้รับผิดชอบ | เลขที่ 1 หมู่ 20 ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 13180 |
ชื่อผู้ร่วมโครงการ/สาขา | - |
การติดต่อ | 029093026 |
ปี พ.ศ. | 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - |
งบประมาณ | 0.00 บาท |
พื้นที่ดำเนินงาน
จังหวัด | อำเภอ | ตำบล | ลักษณะพื้นที่ | |
---|---|---|---|---|
ปทุมธานี | คลองหลวง | คลองหนึ่ง | place directions |
รายละเอียดชุมชน
ข้อมูลพื้นฐาน
พื้นที่ชุมชนวัดพืชนิมิต หมู่ที่ 20 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ขอบเขตการสำรวจลงพื้นที่ตั้งแต่ซอยซอยเชียงรากน้อย 11 ถึงซอยเชียงรากน้อย 19 ดังรูปที่ 1 การ
ติดต่อสื่อสารภายในและภายนอกหมู่บ้าน สามารถเข้าถึงชุมชนได้หลายทาง จากถนนพหลโยธิน (ทาง
หลวงหมายเลข 1) เส้นทางวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข9) และ
เข้าสู่ชุมชนวัดพืชนิมิต ซอยเชียงรากน้อย 11 หรือเชียงรากน้อย 19 นอกจากนี้ยังมีการคมนาคมขนส่ง
ทางรถไฟ เส้นทางรถไฟสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีสถานนีใกล้ชุมชน คือ สถานีเชียง
รากน้อย
ข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
1) การคมนาคมสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ2) มีสถานที่ท่องเที่ยว คือ วัดพืชนิมิต ซึ่งพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิปางอุ้มบาตรยุคกรุงศรี
อยุธยา ขนาดใหญ่ และมีแพให้อาหารปลา บรรยากาศธรรมชาติเงียบสงบเหมาะ
ส ำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ
3) ชุมชนยังคงสภาพธรรมชาติ สงบ น่าอยู่
4) ในชุมชนยังคงมีการทำเกษตรกรรม และเลี้ยงสัตว์ จึงเป็นแนวทางในการประกอบ
อาชีพเสริม
5) มีโอกาสในการค้าขาย ให้กับคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญที่วัดพืชนิมิต
ข้อมูลประเด็นปัญหา
ชุมชนวัดพืชนิมิต อ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พบว่า เป็นชุมชนเมือง ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนอาชีพด้านการเกษตรกรรมมีเพียงเล็กน้อย สมาชิกในชุมชนไม่ได้มีการรวมกลุ่มทำงานกันชัดเจน ซึ่งผู้นำชุมชนเองก็มีแนวทางในการพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆอยู่แล้ว ทั้งด้านการรักษาความเป็นธรรมชาติในชุมชน การพัฒนาพื้นที่สีเขียวบริเวณถนนและริมคลอง การจัดการขยะ การส่งเสริมอาชีพ เยาวชน การศึกษาข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
จากการสำรวจและแจกแบบสอบถามในชุมชนพบว่ามี 1 ครัวเรือนที่มีความสนใจในการร่วมพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน คือ นายสมชาย นิรัสสัย ประกอบด้วยสมาชิก จำนวน 4 คน ประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าว และนาบัว และครัวเรือนเป้าหมายมีความเห็นพ้องร่วมกันที่จะต้องจัดให้มีการพัฒนาสวนมะพร้าว ปรับปรุงดิน เพื่อเพิ่มผลผลิต และทำเต้าฮวยมะพร้าวอ่อน แต่การเพิ่มผลผลิตมะพร้าวต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร จึงมีการตกลงกันกับครัวเรือนเป้าหมาย จัดกิจกรรมที่จะช่วยเสริมรายได้ให้มีเงินหมุนเวียนในระยะสั้นๆ จากที่บ้านกลุ่มเป้าหมายมีพื้นฐานทางด้านการเกษตรอยู่แล้ว และอาจารย์ในคณะเทคโนโลยีการเกษตร เคยจัดการอบรมการเพาะต้นอ่อนเพื่อสุขภาพให้กับเทศบาลเมืองท่าโขลงซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ทางคณะทำงานจึงแนะนำให้น้าเตี้ยลองปลูกต้นอ่อนเพื่อสุขภาพ เพราะได้ผลผลิตเร็วและไม่ต้องใช้พื้นที่มาก ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วม จำนวน 6 คน และสร้างไลน์กลุ่มกัน มีการส่งผลงานเข้าในไลน์กลุ่มอย่างต่อเนื่องประเด็นปัญหาหลัก
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
องค์ความรู้หรือนวัตกรรมที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน
ประเภทนวัตกรรม
นวัตกรรมชุมชน , นวัตกรรมเกษตร , นวัตกรรมแก้จน , นวัตกรรมสังคม
รายละเอียดนวัตกรรม/หลักการและเหตุผล
ชาติ 20 ปี ของประเทศไทย และยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ 20 ปี ระหว่างปี 2560 ถึง ปี 2579
โดยน้อมน าเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพัฒนาแบบยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
ที่อยู่ และใช้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร
มาเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบาย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับรายได้ของประชาชน แก้ไข
ปัญหาเชิงโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร พัฒนาโภชนาการและความ
ปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ของประชาชนและประเทศชาติ
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระปณิธานแน่วแน่
ที่จะสานต่อโครงการในพระราชดำริของพระราชบิดา เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นมหาวิทยาลัยที่พระราชา
ประสงค์ให้เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฎ พ.ศ.
2547 มาตรา 7 ที่ระบุให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษา เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นเสริมพลังปัญญา
ของแผ่นดิน ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์เพื่อยกคุณภาพมาตรฐานมหาวิทยาลัยราชภัฎสู่คุณภาพ
เป็นเลิศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพบัณฑิตสู่นักปฏิบัติอย่างมืออาชีพ การยกคุณภาพมาตรฐานชีวิต
ของชุมชน ท้องถิ่น และพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน พร้อมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนางาน
พันธกิจสัมพันธ์ และถ่ายทอด เผยแพร่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีกลยุทธ์ในการ
สร้างเครือข่ายชุมชนนักปฏิบัติจากภายในและภายนอกเพื่อร่วมกันศึกษาแก้ไขปัญหาของชุมชนท้องถิ่น
และเสริมพลังให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน ให้ความสำคัญในการพัฒนาชุมชน และ
ท้องถิ่น
ผลสำรวจชุมชนและครัวเรือนเป้าหมายในชุมชนวัดพืชนิมิต อ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
พบว่า เป็นชุมชนเมือง ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ส่วน
อาชีพด้านการเกษตรกรรมมีเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีการรวมกลุ่มกันเพื่อประกอบอาชีพ จากการสำรวจ
แบบสอบถามในชุมชนพบว่ามี 1 ครัวเรือนที่ประกอบอาชีพท าสวนมะพร้าว และนาบัว และครัวเรือน
เป้าหมายมีความเห็นพ้องร่วมกันที่จะต้องจัดให้มีการพัฒนาสวนมะพร้าว ปรับปรุงดิน เพื่อเพิ่มผลผลิต
และท าเต้าฮวยมะพร้าวอ่อน
ดังนั้นคณะเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมถ์จึง
ได้จัดทำโครงการสร้างเครือข่ายชุมชนนักปฏิบัติเพื่อร่วมกันศึกษาแก้ไขปัญหาของชุมชนท้องถิ่น เสริม
พลังให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนในชุมชนสามารถบริหาร
จัดการชีวิตตนเองได้อย่างสมดุลและมีความเหมาะสม สามารถดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง ร่วมกับการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เพิ่มคุณค่าและมูลค่า เสริมเศรษฐกิจฐานรากในชุมชน
ให้มีความ เข้มแข็ง มั่นคง นำไปสู่การพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ส่งผล
ให้ชุมชนหมู่บ้านมีคุณภาพชีวิตและรายได้ที่เพิ่มขึ้น
คำสำคัญเพื่อการค้นหา
- การเพาะต้นอ่อน
- ชุมชนพืชนิมิตร
- เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน
- ผักปลอดสารพิษ
- หมู่ที่ 19
ภาพถ่าย
วีดิโอ
ไฟล์เอกสาร
โครงการขยายผล
project version release 2022-02-13. ช่วยเหลือ